Daily Focus: Big Cap Play 

2023SET Target: 1620

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวในแดนบวกได้ต่อเนื่องและแกร่งกว่าที่เราคาดเล็กน้อย ปิดบวก 10.99 จุด ณ สิ้นวัน มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 4.2 หมื่นลบ. ตลาดคาดหวังเชิงบวกต่อผลการประชุม FED ในสัปดาห์นี้ที่จะคงอัตราดอกเบี้ย สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเร่งขึ้นเป็น 1.9 พันลบ.และ 592 ลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติ Long Index Futures 9.5 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index มีโอกาสแกว่งตัวในแดนบวกได้ต่อเนื่อง ทดสอบแนวต้านหลักระยะสั้นที่ 1,570+- จุด โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือน พ.ค. ที่ออกมาชะลอตัวกว่าคาด ทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่าการประชุม FED คืนนี้จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5-5.25% ค่อนข้างแน่นอน แต่ต้องติดตามถ้อยแถลงว่าจะมีมุมมองต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจในระยะถัดไปอย่างไร กลุ่มพลังงานคาดฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่องหลังราคาน้ำมันดิบและก๊าซปรับตัวขึ้นแรง ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน Dollar Index ที่อ่อนค่า และมีปัญหาเรื่อง Supply ใน นอร์เวย์ ส่วนปัจจัยในประเทศด้านพัฒนาการจัดตั้งรัฐบาลตลาดยังรอกกต.รับรองผลซึ่งคาดว่าจะครบวันที่ 27 มิ.ย. โดยเรามองเป็น Sentiment บวกอ่อนๆ ตามลำดับหากปัจจัยการเมืองทยอยคลายตัวที่ละขั้น โดยหากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในเดือน ก.ค.-ส.ค. โฟกัสใน 2H23 จะอยู่ที่นโยบายเศรษฐกิจ ทั้งมาตรการกระตุ้นระยะสั้นและการปรับโครงสร้างในระยะกลาง-ยาว เราประเมินหุ้น Domestic ที่มีความเสี่ยงจากนโยบายรัฐบาลใหม่จะยังฟื้นตัวได้จำกัด ระยะสั้นมองหุ้น Big Cap คาดว่าจะปรับตัวได้แข็งแรงต่อเนื่อง จากกระแสเงินทุนที่ทั้งสถาบันในประเทศและ ต่างชาติที่มีโอกาสทยอยไหลเข้าในระยะนี้ เน้นถือลงทุนหลังทยอยสะสมไปแล้วบริเวณ 1,500 จุด

กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกและมีแนวโน้มกำไร 2Q23-2H23 แข็งแกร่ง // ส่วนที่สะสมบริเวณ 1,500+- จุด ถือลงทุนต่อเนื่อง

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : BDMS, CPN, MAKRO, MINT, ORI

หุ้นเด่นวันนี้ : CPALL

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 72 บาท
  • เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q23 โดยล่าสุด SSSG ยังบวกได้ 7-9% y-y จากการบริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และเป็นช่วงหน้าร้อนทำให้เครื่องดื่มขายดี นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากค่าไฟภาคธุรกิจที่เริ่มปรับลงในเดือน พ.ค.-ส.ค. 23 ลดแรงกดดันด้านค่าใช้จ่าย
  • แนวโน้มกำไรใน 2H23 คาดจะได้อานิสงส์ทางอ้อมจากการปรับโครงสร้างหนี้ Lotus’s ซึ่งทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง ส่งผ่านมายังกำไรของ MAKRO ที่เร่งตัวขึ้น เรายังคงประมาณการกำไรปี 2023 ที่ 1.7 หมื่นลบ. +30% y-y
  • แนวรับ 63.50//62 บาท แนวต้าน 65//68 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$1,592 ล้าน อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินยังกระจุกที่ไต้หวันและเกาหลี US$1,310 ล้าน และ US$269 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนผสมผสานและปริมาณไม่หนาแน่น เม็ดเงินไหลเข้าไทยและเวียดนาม แต่ไหลออกจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ แนวโน้มกระแสเงินทุนมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่องหลังตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯเดือน พ.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด คืนนี้ติดตามผลการประชุม FED

ประเด็นสําคัญวันนี้

(+) เงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือน พ.ค. ชะลอกว่าคาด โดยเงินเฟ้อทั่วไป +0.1% m-m, +4% y-y ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย และลดลงชัดเจนจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.4 m-m, +4.9% y-y ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานตามคาด +0.4% m-m, +5.3% y-y ทรงถึงชะลอเล็กน้อยจากเดือน เม.ย. ที่ +0.4% m-m, +5.5% y-y โดยยังสะท้อนให้เห็นถึงความดื้อของเงินเฟ้อพื้นฐาน ในการปรับลงเข้าหาเป้าหมายที่ 2% ของ FED ซึ่งคาดว่ายังคงต้องใช้ระยะเวลาอีกนานพอสมควร อย่างไรก็ตาม คืนนี้ติดตามเงินเฟ้อ PPI หากออกมาต่ำกว่าคาดเช่นกันจะเพิ่มความเชื่อมั่นที่ตลาดคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5-5.25% ในการประชุมคืนนี้ และเป็น Sentiment บวกสำหรับสินทรัพย์เสี่ยงหนุนกระแสเงินทุนไหลเข้า

(0) ILINK เราคาดกำไร 2Q23 ชะลอชั่วคราวเพราะเป็น low season ทั้งธุรกิจ Installation ของ ITEL และงานเกาะเต่าของ ILINK และธุรกิจ Distribution ที่ไม่มีการจัดงาน Interlink Expo ในไตรมาสนี้ (ปกติจัดงานทุกเดือน ม.ค. และ ก.ค. ของทุกปี ทำให้ 1Q และ 3Q มักมีรายได้สูงกว่าไตรมาสอื่น) เราจึงคาดรายได้ 2Q23 -11% q-q, -10% y-y และกำไร 111 ลบ. -13% q-q แต่ +22% y-y เพราะอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นทุกธุรกิจ การเติบโตของ ILINK ในช่วง 1-3 ปีนี้ยังสดใส โดยเฉพาะธุรกิจ Distribution จากดีมานด์ที่สูงในสินค้า cabling product หากเป็นไปตามคาด กำไร 1H23 จะ +36% y-y ยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10 บาท

(0) คาดการณ์หุ้นเข้าออก SET50/SET100 สำหรับ SET50 หุ้นที่คาดเข้าคือ TLI WHA ออก JMT JMART ส่วน SET100 คาดหุ้นหุ้นคือ AEONTS AURA BTG ERW MBK SNNP TASCO TLI หุ้นออก BEC EPG JAS KEX ONEE QH RBF SINGER

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 145.79 จุด หรือ +0.43% ปิดที่ 34,212.12 จุด หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ต่ำสุดในรอบ 2 ปี ทำให้ตลาดคาดหวังว่า FED จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐต่ำสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่การประชุม ECB ในสัปดาห์นี้ ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ

(0) ค่าเงินบาท ทรงตัว อยู่ที่บริเวณ 34.66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ หรือ 3.43% ปิดที่ 69.42 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนทำให้ความต้องการใช้น้ำมันสูงขึ้น ในขณะที่เช้านี้ปรับตัวลงที่ระดับ 69.13 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.42%

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 11.10 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 1,958.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง อาจทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะ Inflation hedge ในขณะที่เช้านี้ปรับตัวลงต่อที่ระดับ 1,957.90 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.04%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 931.43 / –

- Advertisement -