บล.ฟิลลิป:
STEC ส่วนแบ่งขาดทุน อาจกดำไรงวด 3Q66
ซื้อ TP’67: 13.90
ทางฝ่ายมองรายได้ในงวด 3Q66 มีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นตามงานที่เร่งตัวหลังการจบของ Covid-19 อย่างไรก็ตาม การรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง จะทำให้กำไรงวด 3Q66 อาจลดลง และทางฝ่ายคาดกำไรปี 66 และปี 67 อาจใกล้เคียงประมาณการณ์เดิมที่ 672 ลบ. (-22%y-y) และ 756 ลบ. (+13%y-y) ตามลำดับ แต่ราคาปัจจุบัน 8.60 บาท ต่ำกว่าเป้าหมายปี 67 ที่ 13.90 บาท ทางฝ่ายจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
งบรวม | 3Q66E | 2Q66 | 3Q65 | % у-у | %q-q | 9M66E | 9M65 | % у-у |
กำไร | 104.8 | 153.6 | 138.3 | -24.2% | -31.8% | 429.5 | 543.2 | -20.9% |
EPS | 0.07 | 0.10 | 0.09 | -24.2% | -31.8% | 0.28 | 0.36 | -20.9% |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- รายได้มองเติบโตทั้ง q-q และ y-y: ทางฝ่ายคาดรายได้จะเติบโตจากงาน OM ในมอเตอร์เวย์ ด้านต้นทุน แม้งวด 3Q66 จะมีโครงการบึงหนองบอนเข้ามากดดันอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับ Gross Margin งวด 3Q66 นี้ ทางฝ่ายยังมองว่าจะดีขึ้นเล็กน้อยจาก 2Q66 ที่ 4.39% สู่ 3Q66 ที่ 4.89% แต่การรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง จากจำนวนผู้โดยสารที่ต่ำกว่าคาด จะทำให้กำไรงวด 3Q66 ลดลงสู่ 104.8 ลบ. (+32% q-q, -24%y-y)
- 4Q66 มองรับรู้รายได้จากโครงการต่าง ๆ มากขึ้น: โดยทางฝ่ายมองการรับรู้รายได้ของบริษัทจะสูงในช่วงไตรมาส 4 ถึงช่วงไตรมาส 1 ของปีถัดไป และคาดผลกำไร 4Q66 ที่ 286 ลบ. (+128% q-q, -23% y-y) ส่งให้ตลอดทั้งปี 66 จะมีกำไรที่ 672 ลบ. (-22%y-y) คงราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 13.90 บาท เนื่องจากราคาปิดวานนี้ 8.60 บาท ทำให้ Upside มีสูงถึง 62% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
กิตติ บัวบึง, นักวิเคราะห์ปั จจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #038313
Ref.No. : CO2566_1148