บล.เอเซีย พลัส:

GPSC 4Q66 คาดกำไรลดตามฤดูกาล หวังฟื้นตัวได้บ้างใน 1Q67

คาดกำไรสุทธิงวด 4Q66 ลดลง 77.1%QOQ มาอยู่ที่ 409.1 ล้านบาท กดดันหลักจากกำไรปกติที่คาดลงลง 73.3% QOQ มาอยู่ที่ 581.4 ล้านบาท หลังปริมาณขายไฟฟ้าโดยรวมอ่อนตัวตามการเข้าสู่ช่วง LOW SEASON ของการใช้ไฟฟ้า และโรงไฟฟ้า SRC หยุดซ่อมบำรุงตามแผน ราว 20 วัน รวมถึงส่วนแบ่งกำไร XPCL และ
AEPL ลดลง QOQ ช่วงสั้นงวด 1Q67 คาดกำไรปกติฟื้นตัวเล็กน้อย QOQ หนุนจากปริมาณขายไฟฟ้าโดยรวมที่คาดจะฟื้วตัว แต่คาดยังมีปัจจัยกดดันจากต้นทุนถ่านหินของเก็คโค่วันที่อยู่ในระดับสูง และผลประกอบการ XPCL ที่ลดลง QOQ

คงประมาณการ และ FV ปี 2567 ที่ 55 บาท ช่วงสั้นยังคงคำแนะนำ NEUTRAL จากราคาหุ้นที่อาจถูกกดดันจากผลประกอบการงวด 4Q66 ที่ลดลง สอดคล้องกับภาพรวมของกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ตามทิศทางกำไรในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า คาดยังทยอยฟื้นตัวขึ้นได้ตามลำดับ เน้นหาจังหวะเข้าทยอยสะสมลงทุนระยะยาว

4Q66 คาดทั้งกำไรสุทธิและกำไรปกติลดลง QoQ

คาดกำไรสุทธิ และกำไรปกติงวด 4Q66 จะปรับตัวลดลง 77.1%qoq และ 73.3%qoq มาอยู่ที่ 409.1 ล้านบาท และ 581.4 ล้านบาท ตามลำดับ กดดันหลักจากรายได้ขายไฟฟ้าโดยรวมที่คาดจะอ่อนตัว 20.9%qoq มาอยู่ราว 1.7 หมื่นล้านบาท จากปริมาณขายไฟฟ้าโดยรวมที่ลดลงทั้งกลุ่มโรงไฟฟ้า IPP ที่เข้าสู่ช่วง low season ของการเรียกซื้อไฟฟ้าจากภาครัฐฯ (EGAT) และโรงไฟฟ้าศรีราชา กำลังการผลิต 700 MWe มีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนเป็นเวลาราว 20 วัน ประกอบกับกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรมมบางส่วนมีการหยุดเดินเครื่องตามแผนในช่วงปลายปี รวมถึงราคาขายไฟฟ้าปรับตัวลดลงตามการปรับลดค่า Ft รอบเดือน ก.ย. – ธ.ค. ลง 70.71 สตางค์/หน่วย มาอยู่ที่ 20.48 สตางค์/หน่วย ถึงแม้ยังมีแรงหนุนชดเชยได้บางส่วนจากต้นทุนถ่านหินที่คาดจะ
ปรับตัวลดลงราว 30.0%qoq มาอยู่ที่ 157.2 เหรียญฯ/ตัน ก็ตาม ขณะที่ต้นทุนก๊าซธรรมชาติ คาดยังทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม QoQ ที่ราว 339 บาท/ล้านบีทียู สุทธิแล้วคาดกำไรขั้นต้นลดลง 41.7%qoq มาอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดอยู่ที่ 13.0% จากเดิม 17.6% ในงวด 3Q66

อีกทั้ง คาดจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง 77.8%qoq มาอยู่ที่ 110.1 ล้านบาท โดยหลักคาดเป็นผลมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ XPCL ที่ผลิตไฟฟ้าได้น้อยลง หลังผ่านพ้นช่วงฤดูกาลน้ำไปแล้วในงวด 3Q66 และโรงไฟฟ้า AEPL ประเทศอินเดียคาดจะมีผลประกอบการลดลง QoQ ตามการเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม ส่งผลให้กลุ่มโรงไฟฟ้า solar ผลิตไฟฟ้าได้น้อยลงตามค่าความเข้มแสงที่อ่อนตัว ประกอบคาดจะรับรู้ปันผลรับจากโรงไฟฟ้า RPCL ลดลง 21.5%qoq มาอยู่ที่ 82.4 ล้านบาท หลังผ่านพ้นรอบการจ่ายปันผลหลักในช่วงไตรมาส 1 และ 3 ของทุกปีมาแล้ว นอกจากนี้คาดค่าใช้จ่าย SG&A จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 43.0%qoq มาอยู่ที่ 868.2 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้นเป็นปกติในช่วงปลายปี

สำหรับรายการพิเศษ สุทธิแล้วคาดจะบันทึกเป็นผลขาดทุนลดลง 55.6%qoq มาอยู่ที่ 172.3 ล้านบาท เนื่องจากในงวดนี้ คาดจะมีเงินชดเชยค่าความเสียหายจากประกันภัยบางส่วนของโรงไฟฟ้าศรีราชาและเก็คโค่วันรวม 155.0 ล้านบาท รวมถึงคาดกำไรจาก Fx และการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงินจะเพิ่มขึ้น 92.4%qoq มาอยู่ที่ 126.7 ล้านบาท ขณะที่ค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ GLOW คาดยังอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิมที่ 454.0 ล้านบาท

โดยรวมแล้วคาดกำไรปกติทั้งปี 2566 อยู่ที่ 5.0 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 128.6%yoy และดีกว่าประมาณการกำไรปกติทั้งปี ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้เล็กน้อยราว 4.4%

เบื้องต้นคงประมาณการกำไรปกติปี 2567… งวด 1Q67 คาดกำไรฟื้นตัวเล็กน้อย QoQ จากปริมาณขายที่ฟื้นตามฤดูกาล

เบื้องต้น ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ที่ 6.2 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 29.3%yoy โดยหลักเป็นผลมาจากต้นทุนพลังงานทั้งก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่คาดปรับตัวลดลงเข้าสู่สมดุลที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น ภายใต้สมมติฐานราคาก๊าซฯเฉลี่ยปี 2567 อยู่ที่ 350 บาท/ล้านบีทียู ลดลงจาก 400 บาท/ล้านบีทียูในปี 2566 และค่า Ft ปี 2567 ที่ 0.20 บาท/หน่วย ลดลงจาก 0.89 บาท/หน่วยในปีก่อนหน้า ภายใต้หลักความระมัดระวัง รวมถึงคาดยังมีแรงหนุนจากโรงไฟฟ้า CFXD (Offshore wind farm) 148.8 MWe ที่คาดเริ่มเปิดดำเนินการในช่วงกลางปี 2567

ช่วงสั้น งวด 1Q67 คาดกำไรปกติฟื้นตัวได้เล็กน้อย QoQ หนุนหลักจากปริมาณขายไฟฟ้าโดยรวมที่คาดจะฟื้นตัว QoQ หลังผ่านพ้นช่วง low season ของฤดูกาลใช้ไฟฟ้ามาแล้วในงวด 4Q66 รวมถึงโรงไฟฟ้าเก็คโค่วัน 429.0 MWe คาดจะเริ่มกลับมาขายไฟฟ้าให้ภาครัฐฯ (EGAT) ตามปกติ หลัง EGAT หยุดเรียกซื้อไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.-ธ.ค. 2566 และค่าใช้จ่าย SG&A ที่คาดจะลดลงสู่ระดับปกติ เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงานในช่วงปลายปี แต่อย่างไรก็ตาม คาดจะถูกกดดันจากอัตรากำไรของโรงไฟฟ้าเก็คโค่วันที่ลดลง เนื่องจากไม่ได้เดินเครื่องเป็นเวลานาน ส่งผลให้ราคาต้นทุนถ่านหินในสต็อกยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่อัตรากำไรของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP คาดยังทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม QoQ จากค่า Ft งวด ม.ค.-เม.ย. ที่ปรับเพิ่มขึ้นอีก 19.24 สตางค์/หน่วย มาอยู่ที่ 39.72 สตางค์/หน่วย สอดคล้องกับประมาณการต้นทุนก๊าซฯที่คาดจะเพิ่มขึ้น QoQ รวมถึงผลประกอบการของโรงไฟฟ้า XPCL ที่คาดจะอ่อนตัวลงต่อเนื่อง QoQ ตามการเข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง

การประกอบธุรกิจตามหลักความยั่งยืน (ESG) ของ GPSC:

ด้านสิ่งแวดล้อม (ENVIRONMENT) : แสวงหาการเติบโตอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ผ่านการเข้าลงทุน 41.6% ในบริษัท AVAADA เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศอินเดีย รวมทั้งเข้าลงทุน 25% ในโครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่ง ในไต้หวัน CHANGFANG และ XIDAO (CFXD) ส่งผลให้ GPSC มีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น 2.6 พันเมกะวัตต์ คิดเป็น 37% ของกำลังการผลิตทั้งหมด 7.1 พันเมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีโดยเปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานด้วยเทคโนโลยี SEMISOLID แห่งแรกในภูมิภ

ด้านสังคม (SOCIAL) : ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 จนถึงปัจจุบัน โดยได้แบ่งการดำเนินกิจกรรมออกเป็น 4 รูปแบบหลัก คือ 1) การบริจาคเงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 2) บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของจำเป็น 3) การสนับสนุนนวัตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาการระบาดของ COVID และ 4) การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ GPSC ยังได้ร่วมกับกลุ่ม ปตท. ขับเคลื่อนโครงการ SMART FARMING นำนวตักรรมและเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท. มาใช้ยกระดับกระบวนการเพาะปลูกและการพัฒนาผลิตผลทางการเกษตร อีกทั้งยังมีโครงการอื่นๆ เช่น โครงการ LIGHT FOR A BETTER LIFE โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น

ธรรมาภิบาล (GOVERNANCE) : ได้รับการประเมินผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทยปี 2564 อยู่ในระดับ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และได้รับการต่ออายุการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต อีกทั้งยังได้รับการยอมรับและได้รับรางวัลทั้งจากในประเทศและระดับสากล เช่น รางวัลระดับสากลจากงาน 11TH ASIAN EXCELLENCE AWARDS 2021 รางวัล RISING STAR SUSTAINABILITY AWARDS กลุ่มรางวัล SUSTAINABILITY EXCELLENCE จากเวที SET AWARDS 2021 และยังได้รับเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ THAILAND SUSTAINABILITY INVESTMENT (THSI) ประจำปี 2564 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เป็นต้น

ประเด็นความเสี่ยง

  1. โครงการโรงไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอาจไม่สามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ตามแผน (CONSTRUCTION RISK)
  2. การหยุดซ่อมฉุกเฉินของโรงไฟฟ้า (UNPLANNED SHUTDOWN)
  3. ความเสี่ยงจากความผันผวนของ FX และอัตราดอกเบี้ยเพราะ GPSC มีสูตรการคิดราคาค่าไฟและกู้เงินลงทุนโรงไฟฟ้าบางส่วนด้วยสกุลเงินต่างประเทศ
- Advertisement -