บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Minor International (MINT TB)
คาดเติบโตแข็งแกร่งตลอดปี 67
เพิ่มประมาณการกำไร หนุนโดย ReVPAR ที่ดีขึ้นและต้นทุนที่ลดลง
เราเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 66 และ 67 ขึ้น 4% และ 10% แรงหนุนจาก ReVPAR ที่สูงกว่าคาดในยุโรป (72% ของรายได้โรงแรมในช่วง 9M66) และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้น 10% ในสัปดาห์ที่แล้ว ทว่า Valuation ยังคงน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PE ปี 67 ที่ 22 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 25 เท่า เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” MINT เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตมากที่สุดในปี 67 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจการท่องเที่ยวในยุโรป และการเติบโตที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจสันทนาการในไทยและมัลดีฟส์ และจากประมาณการกำไรที่สูงขึ้น เราจึงเพิ่มราคาเป้าหมายอิงวิธีอิงวิธี DCF เป็น 36.0 บาท
(WACC 6.7% และ Terminal Growth 2%) จาก 35.25 บาท
คาดกำไร 4Q66 เติบโต QoQ ท่ามกลางโลว์ซีซั่นของ NHH
เราประเมินกำไรหลักไตรมาส 4 / 66 ยังคงแข็งแกร่งที่ 2.5 พันล้านบาท (+4% YoY และ +8% QoQ) ซึ่งสูงกว่าที่เราคาดไว้ครั้งก่อนว่ากำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ โดยการเติบโต YoY น่าจะเนื่องมาจากธุรกิจโรงแรมที่เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องท่ามกลางช่วงโลว์ซีชั่นในยุโรป โดยคาดว่า RevPAR น่าจะเติบโต 16% YoY (-5% QoQ) ซึ่งน่าจะช่วยชดเชยผลกระทบของ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอันเนื่องมาอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ การเติบโตของกำไรหลัก Q0Q น่าจะได้รับแรงหนุนจากช่วงไฮซีชั่นของปุระเทศไทยและมัลดีฟส์ ทั้งนี้ MINT จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/66 ในวันที่ 8 ก.พ.ที่จะถึงนี้
แนวโน้มสดใสสำหรับปี 67
เราคาดว่าการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ๆ และกิจกรรมอื่นๆ ในยุโรปจะช่วยหนุน ADR ให้สูงขึ้นท่ามกลางอัตราการเข้าพักในเมืองเจ้าภาพที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน เราคาดว่าจำนวนแขกองค์กร (45% ของรายได้โรงแรม NH) จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากการพื้นตัวอย่างช้าๆในปี 66 อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดด้านงบประมาณของแขกทางธุรกิจยังคงเป็นความท้าทายในอุตสาหกรรม แม้ว่าเราคาดว่าแนวโน้มนี้จะส่งผลบวกต่อกลุ่มโรงแรม 3-4 ดาวอย่าง NHH
คาดว่าความต้องการจะสูงกว่าอุปทานโรงแรมในยุโรป
จากข้อมูลของ CBRE ระหว่างปี 2552 ถึง 2565 อุปทานโรงแรมในยุโรปขยายตัว 1.4% CAGR ในขณะที่ตัวเลขนี้น่าจะลดลงเหลือเพียง 1% ในปี 2567 เราคาดว่าอุปทานจะยังคงตำกว่าความต้องการ ซึ่งประเมินโดย UNWTO ว่าจะเติบโต 3% เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้มาเยือนใน ปี 2567 โดยประเทศที่ NHH ให้ความสำคัญ เช่น สเปน อิตาลี และฝรังเศส ทาง CBRE ประเมินว่าจะเห็นการพัฒนาโรงแรมใหม่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2567
