วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,373 / 1,365 แนวต้าน 1,385 / 1,393

แม้ตลาดสหรัฐเมื่อคืนนี้ขึ้นได้ดี แต่เรามองว่าตลาดเอเชียจะเคลื่อนไหว Underperform จากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ทั้งนี้ยังคาดตลาดจะรอดูตัวเลขประมาณการ GDP 4Q’66 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ก.พ. ทางด้านราคาน้ำมันดิบอาจเห็นการผันผวนจากการรายงาน ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบออกมาเพิ่มขึ้นสวนทางตลาดคาด และ ติดตามการประชุม OPEC+ สัปดาห์หน้า

Our View? “ค่าเงินไม่เอื้อ”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,373 / 1,365 และแนวต้านที่บริเวณ 1,385 / 1,393 แม้เมื่อคืนนี้ตลาดสหรัฐจะปรับตัวขึ้นได้ดี จากแรงกลับเข้าซื้อหุ้นสหรัฐหลังชะลอตัวลงในช่วงก่อนหน้า จากแรงขายทำกำไรหลังเสร็จสิ้นการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในช่วงที่ผ่านมา แต่เราคาดว่าแนวโน้มการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ โดย Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลยังพยายามปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 104.37+/- กดดันค่าเงินในตลาดภูมิภาค อ่อนค่าและเป็นปัจจัยลดทอนความน่าสนใจของตลาดในภูมิภาคให้เคลื่อนไหว Underperform ได้

ขณะที่เราแนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) เริ่มชะลอตัวลงอีกครั้ง โดยรุ่นอายุ 10 ปี หากอ่อนตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ต่ำกว่าระดับ 4.20%+/- มองจะเป็นปัจจัยส่งผลให้ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง

อย่างไรก็ดีเรายังคาดตลาดจะรอติดตามดูตัวเลขประมาณการ GDP 4Q’66 ของสหรัฐคาดจะอยู่ที่ระดับ 3.2%QOQ ตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ก.พ. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ FE ให้ความสำคัญและสะท้อนถึงทิศทางเงินเฟ้อของสหรัฐ ล่าสุดตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ +0.4%MoM/+2.5% YoY

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI.ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อคืนนี้แกว่งตัวผันผวนปิดที่ระดับ 81.35 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.27 ดอลลาร์ (-0.33%) โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ออกมา +3.165 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซิน +1.299 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางจากที่ตลาดคาดจะลดลง สะท้อนถึงอุปสงค์น้ำมันดิบในสหรัฐชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามเราคาดว่าราคาน้ำมันในระยะถัดไปอาจเห็นการผันผวนได้จากการประชุม OPEC+ ในช่วงสัปดาห์หน้า แต่เราคาดว่า OPEC+ จะ ยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายปรับลดกำลังการผลิตแต่อย่างใด

สำหรับปัจจัยภายในประเทศการที่ตลาดหลักทรัพย์มีมติเห็นชอบมาตรการต่างๆ ในการยกระดับการกำกับดูแลการขายชอร์ต และการใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขาย (Program Trading) โดยจะเริ่มเพิ่มการเปิดเผยข้อมูลการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (Outstanding Short Position) คาดจะช่วยลดปริมาณการขายชอร์ตได้บ้างในระยะสั้น แต่มองเป็นเพียงปัจจัยจำกัด Downside ของตลาดเพียงชั่วคราว

อย่างไรก็ดีเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยตั้งแต่ต้นปี-17 มี.ค. ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 8.07 ล้านราย โดยเป็นนักท่องเที่ยวจีนกว่า 1.5 ล้านรายจากมาตรการฟรีวีซ่า ซึ่งเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงแนวโน้มในการตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้าเป้าที่ระดับ 35 ล้านรายในปีนี้ได้ มองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว (AOT, AWC, CENTEL และ MINT) รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเข้ามาของชาวจีนอาทิ EKH และ SAFE จากการใช้บริการผู้มีบุตรยาก

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “AAI”

  • เรามองราคาหุ้นจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากการรายงานตัวเลขส่งออกอาหารสัตว์เดือน ก.พ. ของไทยขยายตัวต่อเนื่อง +21.5% YoY สะท้อนถึงแนวโน้มยอดขายอาหารสัตว์ของ AAI ยังปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผบห.ตั้งเป้ารายได้ปี 67 ที่ 6.5 พันล้านบาท +19.0% YoY
  • ทางเทคนิค ราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เหนือ EMA200 วัน และ Middle Line ในกรอบทิศทางแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
  • แนะนำ “ถือ / ย่อซื้อสะสม”
  • แนวรับ 4.46 / 4.38 Target 4.70 / 4.96 Stop <4.20

- Advertisement -