บรรยายภาพ: รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ (แถวบนกลางซ้าย) ประธานกรรมการบริษัท นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ (แถวบนกลางขวา) รองประธานกรรมการ นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล (แถวบนที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคณะกรรมการ บมจ. เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ “GFC” ร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เพื่อรับทราบผลการดำเนินงาน และพิจารณาอนุมัติงบการเงินปี 2566 โดยบริษัทฯ มีรายได้สร้างสถิติสูงสุดใหม่ All Time High ที่ระดับ 100.16 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 22.55 ล้านบาท พร้อมอัปเดตแผนการเปิดสาขา 2 สาขาใหม่ คือ พระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และ สาขาอุบลราชธานี ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงไตรมาส 3/2567 เพื่อมุ่งสู่ New S-Curve ที่จะสร้างโอกาส การเติบโตใน 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) ที่มีโอกาสเติบโตเฉลี่ย    

นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ “GFC เปิดเผยว่า บริษัทฯ จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติผ่านทุกวาระตามที่คณะกรรมการเสนอ พร้อมรับทราบผลการดำเนินงานและพิจารณาอนุมัติงบการเงินปี 2566 โดยบริษัทฯ มีรายได้สร้างสถิติสูงสุดใหม่ All Time High ที่ระดับ 100.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% (YOY) และมีกำไรสุทธิที่ 22.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% (YOY) ซึ่งผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของการเป็นผู้นำด้านการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา GFC วางกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนในการจัดกระบวนทัพใหม่ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เข้ารับบริการรักษาภาวะมีบุตรยากเพิ่มขึ้น สอดรับดีมานด์ลูกค้าในประเทศขอเข้ารับคำปรึกษา รวมถึงเข้ารับการรักษาสำหรับผู้มีบุตรยากสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากปัจจัยดังกล่าว บริษัทฯ จึงวางโรดแมปพร้อมตั้งเป้าการเติบโต 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) สู่การสร้าง New S-Curve ที่มีโอกาสสร้างการเติบโตในระดับ 20-40%  โดยในปีนี้ GFC ตั้งเป้าอัตราการเติบโตสูง 20-30% ขณะที่ในปี 2568 คาดจะเติบโตต่อเนื่อง 35% จากฐานในปีนี้ ส่วนปี 2569 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ระดับ 20% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากการขยาย 2 สาขาใหม่ ประกอบด้วย สาขาพระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และ สาขาอุบลราชธานี ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงไตรมาส 3/2567 และจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทันที

 พร้อมทั้งเชื่อว่าทั้ง 2 สาขา จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่สำหรับรองรับผู้เข้ารับการรักษาและเข้ารับคำปรึกษาผู้มีบุตรยากทั้งกลุ่มคนไทยและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งสถานที่ทั้ง 2 แห่งอยู่ในแหล่งโลจิสติกส์ทางด้านคมนาคมโดยเฉพาะสนามบิน ซึ่งเป็นหัวใจหลักสำคัญสำหรับการเดินทางเข้ารับการรักษา ดังนั้นใน ไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป GFC จะเปิดให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก ครบ 3 สาขา (พระราม 3,  พระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล,อุบลราชธานี) ทำให้บริษัทฯ เชื่อว่าทุกสาขาของ GFC จะสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากได้ครอบคลุมทุกมิติ และยังถือเป็นการสอดรับกับนโยบายการปลดล็อค “สมรสเท่าเทียม – พ.ร.บ.อุ้มบุญ” ด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ GFC ได้มีการเซ็นสัญญาแต่งตั้งบริษัท SPREAD HEALTHCARE ซึ่งเป็นบริษัท Agency จากประเทศจีน เพื่อวางกลยุทธ์ในการดึงกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีน ให้เข้ามาใช้บริการเพื่อเข้ารับการรักษาสำหรับผู้มีบุตรยากกับ GFC เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยในปัจจุบันบริษัทฯ ได้เตรียมแผนสำหรับรองรับการเข้ามาของกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่จะเข้ามาใช้บริการตรวจและรับการรักษาผู้มีบุตรยากไว้แล้ว โดยการขยายพื้นที่เพิ่มเติมโซนอาคารหลังของคลินิกสาขาพระราม 3 ซึ่งถือเป็นการปูทางสู่การรองรับลูกค้าชาวต่างชาติก่อนที่คลินิกสาขาพระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล แล้วเสร็จ ดังนั้นภายใต้ความโดดเด่นความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชและเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์ผู้มีปัญหามีบุตรยากมากกว่า 23 ปี ทำให้ GFC ก้าวสู่ศูนย์ให้บริการสำหรับผู้มีบุตรยากที่ได้รับความไว้วางใจที่สามารถตอบโจทย์ Success Rate หรืออัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ซึ่ง GFC มีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงกว่าค่าเฉลี่ย

- Advertisement -