วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,374 / 1,370 แนวต้าน 1,380 / 1,384

คาดไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการปรับตัวขึ้นได้ดีต่อ แต่ยังมองความคาดหวังในการที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงเดือน ก.ย. และการปรับลดวงเงินในการทำ QT จะเป็นปัจจัยบวกหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ ขณะที่สัปดาห์นี้เราให้น้ำหนักต่อการรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าของจีน รวมทั้งการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในประเทศ

Our View? “แกร่งแค่ไหนได้รู้กัน”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,374/1,370 และแนวต้านที่บริเวณ 1,380 / 1,384 เรามองตลาดไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้นต่อ คาดตลาดในภูมิภาคจะรอติดตามการรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าของจีนเดือน เม.ย. ในช่วงสัปดาห์นี้ต่อ คาดจะพลิกกลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ระดับ 1.2% และ 4.5% ตามลำดับ หากออกมาตามหรือดีกว่าที่ตลาดคาดจะสะท้อนทิศทางการค้าและเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นมองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นจีน-และภูมิภาคได้ ขณะที่เรายังมองรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payroll) เดือน เม.ย. ของสหรัฐที่ออกมาเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐลดความแข็งแกร่งลงกระตุ้นความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในช่วงเดือน ก.ย. กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งการที่ FED จะเริ่มปรับลดวงเงินในการปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหมดอายุลงโดยไม่มีการซื้อคืน (QT) เรามองเป็นก้าวแรกในการเริ่มกลับมาเพิ่มสภาพคล่องส่วนเกินเข้าสู่ตลาด คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยรุ่นอายุ 10 ปีเช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.46%+/- สะท้อนการเปิดรับความเสี่ยงที่มาก ขึ้นของตลาด (Risk-On) หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังส่งสัญญาณถึงโอกาสในการนำกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมา มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง ทั้งนี้เรายังแนะนำติดตามการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดได้ต่อ ขณะที่เรายังมีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั้งประเทศในช่วงเดือน ต.ค. เรามองเป็นทั้งปัจจัยบวกและลบต่อตลาด โดยคาดจะเป็นปัจจัยเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านแรงงานต่อ บจ.ที่มีสัดส่วนแรงงานมาก อาทิ รับเหมา-ก่อสร้าง และอุตสาหกรรม ต่างๆ บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเรามองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC และ CRC) รวมถึงหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม (OSP, CBG, SAPPE, ICHI และ TACC) จากกำลังซื้อที่จะเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามคาดตลาดจะให้ความสำคัญไปกับการรายงานผลประกอบการของ บจ.ในตลาดฯ รายตัวต่อไป

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “CPAXT”

  • คาดอาจเห็นแรงเข้าซื้อจากการประกาศผลประกอบการ 1Q’67 โดยนักวิเคราะห์ของเราคาดกำไรปกติ 1Q’67 อาจย่อตัวลงบ้าง QoQ จากปัจจัยเชิงฤดูกาลแต่คาดจะเติบโต +19.4% YoY จากยอดขายของแม็กโครและโลตัสที่ดีขึ้นต่อเนื่องโดย SSSG แม็กโคร +3-5% YoY ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากค่าไฟเดือน ม.ค. – เม.ย. ลดลง 22%YoY และดอกเบี้ย จ่ายลดลงต่อเนื่อง คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้
  • ทางเทคนิค ราคาย่อตัวลงทดสอบแนวรับที่เส้นแนวโน้มขาลงและ EMA10 วันหลัง Breakout แนวต้านดังกล่าวได้ก่อนหน้าขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD ให้สัญญาณซื้อ แต่ SSTO ชะลอกำลังลงบ้างเล็กน้อย
  • แนะนำ “ย่อซื้อ”
  • แนวรับ 32.00 / 31.00 Target 36.00 / 39.00 Stop <29.75

- Advertisement -