บล.พาย:

CBG: Carabao PCL

ยอดขาย CLMV ฟื้นหนุนกำไร 1Q24 โตแรง YoY

รายงานกำไรสุทธิ 628 ล้านบาท (+138%YoY, -3%QoQ) ดีกว่าที่เราและ BB consensus 7% กำไร 1Q24 คิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรปี 2024 การเติบโต YoY หนุนจากรายได้ที่เติบโต 20%YoY จากยอดขายใน CLMV ที่ฟื้นตัว 14%YoY อัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว 210 bps YoY และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารที่ลดลง YoY จากค่าใช้จ่ายสนับสนุนการขายที่ลดลง หลังโรงเบียร์เข้ามาแชร์ค่าใช้จ่าย Carabao Cup 50% ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศในเชิงปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 23.5% ใน 1Q24 จาก 22.0% ใน 1Q23 เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 80.00 บาท

กำไร 1Q24 โตแรง YoY แต่ลดลง QoQ

  • กำไร 1Q24 เติบโต YoY หนุนจาก 1) ยอดขายสินค้า Branded own ในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องดื่มชูกำลัง ที่ 1.3 พันล้านบาท (+14%YoY) จากส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศในเชิงปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 23.5% ใน 1Q24 จาก 22.0% ใน 1Q23 2) ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังใน CLMV ที่ฟื้นตัว 14%YoY จากยอดขายในกัมพูชาและพม่าที่ฟืนตัวจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยอดขายเวียดนามที่เติบโตดีจากคู่ค้ารายใหม่และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น YOY จากอัตรากำไรขั้นต้นสินค้า Branded own ที่เพิ่มขึ้นเป็น 38.9% ใน 1Q24 จาก 33.7% ใน 1Q23 และ 37.6% ใน 4Q23 ผลจากการประหยัดต่อขนาดจากกำลังการผลิตที่สูงขึ้น
  • กำไร 1Q24 ลดลง Q0Q ผลจาก 1) ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศที่อ่อนตัวลง QoQ จากการทำโปรโมชั่นลดลง และร้านค้าเครือข่ายต้องเก็บสต็อกเบียร์ด้วยส่วนนึง ทำให้ต้องลดสต๊อกเครื่องดื่มชูกำลังลงบางส่วน ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดเดือนมี.ค. 2024 ดีขึ้นมาที่ 23.9% หลังทำโปรโมชั่นในร้านสะดวกซื้อมากขึ้น 2) รายได้การจัดจำหน่ายและผลิตบรรจุภัณฑ์เบียร์ลดลง QoQ และ 3) ค่าใช้จ่ายสนับสนุนการขายที่เพิ่มขึ้น QoQ

ยังมี 2 ความท้าทายที่ต้องเผชิญใน 2H24

  • ต้นทุนอลูมิเนียม (15% ของต้นทุน) มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงปลาย 2Q24 ตามราคาอลูมิเนียมปรับตัวสูงเป็น 2,585 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน +9%YTD’2024 ขณะที่การปรับราคาขายน่าจะทำได้ยาก ทำให้อัตรากำไรมีโอกาสอ่อนตัวลงได้
  • รายได้การจัดจำหน่ายและผลิตบรรจุภัณฑ์เบียร์ยังมีความท้าทายโดย ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์เพื่อเจาะตลาดเบียร์ โดยเรายังคงสมมติฐาน CBG มีรายได้จากการจัดจำหน่ายเบียร์ 1.95 พันล้านบาทในปี 2024 จาก 500 ล้านบาทในปี 2023 (เริ่มจำหน่ายพ.ย.2023) โดยคาดเบียร์คาราบาวและเบียร์ตะวันแดงมีส่วนแบ่งการตลาดเบียร์ในประเทศไทยรวมกันที่ 1.5% ในปี 2024 และ 2.0% ในปี 2025 จากมูลค่าตลาด 2.6 แสนล้านบาท และไม่รวมรายได้จัดจำหน่ายเบียร์ในส่วนของ MT โดยเราเชื่อว่ายังเติบโตได้จากตลาดเฉพาะกลุ่ม กล่าวคือเราเชื่อว่ามีตลาดสำหรับเบียร์รสชาติอื่นๆ ที่ไม่ใช่เบียร์ LAGER เช่น เบียร์ IPA หรือเบียร์กลิ่นผลไม้อย่าง WEIZEN และ ROSE

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 80.00 บาท

มูลค่าพื้นฐาน 80.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.6% และ TG 3% เทียบเท่า 32XPE’24E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง

- Advertisement -