อิ๊กดราซิล กรุ๊ป ปรับกลยุทธ์เสริมสภาพคล่ององค์กร ลุยรับงาน Service ระยะสั้นหวังเพิ่มกระแสเงินสด พร้อมปรับโครงสร้าง Fixed Cost นำ AI เสริมกระบวนการผลิต ลดภาระต้นทุน คาดสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติปลายปีนี้  ด้าน “ธนัช จุวิวัฒน์” เดินหน้าลุยงานเตรียมบินเจรจาดีลขายหนังฮอลลีวูด Home Sweet Home Rebirth ให้รายใหญ่ฝั่งอเมริกา หวังสร้างรายได้ก้อนใหญ่ในปีหน้า

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอิ๊ก ดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้มีการปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจในระยะสั้น เพื่อเสริมสภาพคล่อง และเพิ่มกระแสเงินสดให้กับบริษัท โดยการรับงานเซอร์วิสที่มีระยะเวลา 3 – 6 เดือนเพิ่มมากขึ้น และมีการปรับโครงสร้างด้านต้นทุนของบริษัท  โดยการนำ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ มาช่วยในกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และความรวดเร็ว รวมทั้งยังช่วยลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทด้วย

สำหรับปัญหาการขาดสภาพคล่องของบริษัทเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราว ซึ่งเกิดจากการร่วมลงทุนสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวูด Home Sweet Home Rebirth ที่ต่อยอดจากการพัฒนา IP ของบริษัท  ซึ่งได้ใช้เงินลงทุนประมาณ 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยในขั้นตอนการดีลซื้อสิทธิ์มีความล่าช้า  จากการพิจารณาเพื่อให้ได้ดีลที่ดีที่สุด และในระหว่างที่รอพิจารณาดีล ทางด้านทีมงานได้ร่วมปรับปรุงพัฒนาเพิ่มเติมให้เพื่อให้ผลงานออกมาสมบูรณ์ที่สุด  ซึ่งขณะนี้ภาพยนตร์ได้ผลิตเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายธนัช กล่าวอีกว่า เพื่อให้บริษัทมีกระแสเงินสด ในการเสริมสภาพคล่อง จึงได้ชะลอการพัฒนาส่วนของ IP ที่เป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตน หรืองานที่ต้องลงทุนเอง 100% ไว้ก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานโปรเจคใหม่ ๆ ที่ใช้ระยะเวลาในการพัฒนานาน  และยังไม่ก่อให้การรับรู้รายได้ในทันที รวมทั้งมีการใช้ต้นทุนสูง  ในอนาคตหลังสภาพคล่องกลับคืนมา บริษัทมีแผนปรับรูปแบบการพัฒนา IP ร่วมกันพันธมิตรมากขึ้น โดยเฉพาะการต่อยอดจากผลงานของบริษัท

“ที่ผ่านมาบริษัทประสบปัญหา Cash Flow เราก็ปรับตัวได้เร็วมาก รับงานระยะสั้นเพื่อเก็บเงินสด Offer กับลูกค้าที่จ่ายเงินเร็ว เพื่อให้ได้เงินสดมาเพิ่มสภาพคล่องกับบริษัทมากที่สุด  และได้ปรับโครงสร้างต้นทุน  ในการลดต้นทุน Fixed Cost ถ้ามีงานมากก็มีการจ้างเอาท์ซอส ถ้างานน้อยก็จะไม่กระทบกับ Fixed Cost มาก ที่สำคัญการนำ AI มาช่วย จะผลิตงานได้เร็วขึ้น ส่งงานเร็ว รายได้ก็เข้ามาเร็ว ” นายธนัช กล่าว

ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นายธนัช กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทยังมีการทยอยชำระคืนเงินกู้ทุกเดือน และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอพิจารณาอนุมัติแผนข้อเสนอการชำระคืนเงินกู้จากธนาคาร คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเร็วๆ นี้

นายธนัช กล่าวถึง ความคืบหน้าในการเจรจาซื้อขายสิทธิ์ภาพยนตร์ฮอลลีวูด Home Sweet Home Rebirth  ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ซื้อหลายรายที่ให้ความสนใจอยากซื้อสิทธิ์ภาพยนตร์  ในขณะที่บริษัทมีกำหนดการเตรียมร่วมงานบนเวทีระดับโลก ในงาน The Toronto International Film Festival ประเทศแคนนาดา และ งาน American Film Market (AFM) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเพิ่มช่องทางเจรจาขายสิทธิ์ภาพยนตร์ให้กับผู้ซื้อทั้งของอเมริกา และนอกเหนืออเมริกา   โดยการเจรจาจะพิจารณาเงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับบริษัท  การซื้อขายสิทธิ์ภาพยนตร์จะเป็นดีลที่สำคัญ สำหรับการสร้างรายได้ก้อนใหญ่ในรูปแบบใหม่ให้กับบริษัท  ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ใหม่เข้ามาในปี 2568

นายธนัช กล่าวอีกว่า ปัจจุบันแม้ตนเองไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท แต่ยังคงเดินหน้าบริหารธุรกิจ YGG อย่างมุ่งมั่น ตามแนวทางเดิมที่ได้วางไว้ตั้งแต่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  ที่ต้องการพัฒนางานดิจิตอลคอนเทนต์ในประเทศให้เติบโต  และผลักดันผลงานไปสู่เวทีระดับโลก เพราะมองเห็นโอกาสการเติบโตในประเทศที่ยังมีสูง  เมื่อเทียบกับตัวเลขทางธุรกิจในตลาดโลกที่มีขนาดใหญ่มาก และจากประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญทางธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ของ YGG กว่า 20 ปี ผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ทำให้ลูกค้าในประเทศ และต่างประเทศ มั่นใจในศักยภาพของบริษัท ยังคงมีการจ้างงานและแนะนำลูกค้าใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

“สิ่งที่ผมทำคือปัจจุบันทำตรงนี้ให้ดีที่สุด เพื่อให้ผู้ถือหุ้น ลูกค้า พันธมิตรเห็นผลงานของเรา   เมื่อเกิดวิกฤตเราพร้อมปรับตัวให้ไว ได้เรียนรู้เพื่อเติบโต และไปต่อ  เพื่อให้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน YGG เรามีจุดแข็งจากการประสบการณ์การทำงานมานาน และส่วนสำคัญที่ลูกค้ายังให้ความมั่นใจเชื่อมั่นในผลงาน เราทำทุกอย่างให้ตอบโจทย์ ทำงานอย่างคุณภาพงาน ความรวดเร็วตรงเวลา ตามทันเทรนด์ตลาด มีต้นทุนที่แข่งขันได้ในตลาดโลก” นายธนัช กล่าว

- Advertisement -