บล.กสิกรไทย:
TOP เผชิญเหตุน้ำมันรั่วอีกครั้ง ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงถือเป็นโอกาสในการสะสมหุ้น เหตุการณ์นี้ถือเป็นสัญญาณเชิงลบในระยะสั้นและมีผลกระทบค่อนข้างจำกัด

  • เกิดอะไรขึ้น: เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 มิ.ย.) TOP รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าเมื่อเวลาประมาณ 23.54 น. ของวันที่ 5 มิ.ย.2568 ได้เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลที่บริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณนอกชายฝั่งใกล้กับโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
  • สาเหตุของการรั่วไหล: การรั่วไหลของน้ำมันดิบครั้งนี้เกิดจากเหตุสุดวิสัย คือ ลมกระโชกแรงกระทันหัน (60 นอต เมื่อเทียบกับเกณฑ์การออกแบบที่ 30 นอต ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 100 ปี) และคลื่นที่สูง ทำให้ระบบป้องกันของทุ่น SBM-2 (Breakaway Coupling) ได้ทำงานได้ตามที่ออกแบบไว้ โดยในขณะที่วาล์วความปลอดภัยของระบบป้องกันทุ่นกำลังจะปิด จะมีน้ำมันบางส่วนไหลออกมาเล็กน้อย
  • ซึ่งต่างจากเหตุการณ์การรั่วไหลของน้ำมันครั้งก่อน ซึ่งเกิดจากอุปกรณ์ขัดข้อง
  • สถานะการดำเนินงาน: ไม่มีความเสียหายต่ออุปกรณ์ แต่การดำเนินงานของทุ่นจะถูกหยุดลงชั่วคราวเพื่อการตรวจสอบเป็นเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ และไม่มีผลกระทบต่ออัตราการดำเนินงานของโรงกลั่น TOP เนื่องจากจะใช้ทุ่น SBM-1 ทดแทน แต่จะมีต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มเติมประมาณ 0.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
  • ปริมาณน้ำมันรั่วไหลและการตอบสนอง: ปริมาณน้ำมันรั่วไหลมีเพียง 8,000 ลิตร เมื่อเทียบกับ 60,000 ลิตรในเหตุการณ์ครั้งก่อน โดย ณ ปัจจุบัน น้ำมันทั้งหมดถูกกำจัดและทำความสะอาดแล้ว (ไม่มีน้ำมันไหลเข้าสู่ชายฝั่ง)
  • การตรวจสอบตามระเบียบ: กรมเจ้าท่าและผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้ดำเนินการตรวจสอบและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของระบบ SBM แล้ว โดยไม่มีการออกคำสั่งหรือให้ TOP ยื่นคำร้องใหม่เพื่อขออนุมัติให้ทุ่นกลับมาดำเนินการอีกครั้ง
  • ความคุ้มครองตามกรมธรรม์: TOP มีกรมธรรม์ประกันภัยหลัก 4 ฉบับ ได้แก่ 1) ความเสียหายต่อทรัพย์สินมูลค่า 1.8 พันล้านดอลล่าร์ฯ โดยมีค่าเสียหายส่วนแรก 5 ล้านดอลล่าร์ฯ 2) ความรับผิดต่อสิ่งแวดล้อมและกฎหมายมูลค่า 25 ล้านดอลล่าร์ฯ โดยมีค่าเสียหายส่วนแรก 1 ล้านดอลล่าร์ฯ 3) ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก 50 ล้านดอลล่าร์ฯ โดยมีค่าเสียหายส่วนแรก 0.2 ล้านดอลล่าร์ฯ และ 4) ประกันภัยสินค้าทางทะเลมูลค่า 230 ดอลล่าร์ฯ โดยมีค่าเสียหายส่วนแรก 0.5% ของมูลค่ารวมทั้งหมด
  • ความเสียหายจากเหตุน้ำมันรั่วครั้งก่อน มูลค่าความเสียหายรวมจากน้ำมันรั่วไหลครั้งก่อนที่ 60,000 ลิตร อยู่ที่ 200 ลบ. บริษัทเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันได้ 168 ลบ. และได้รับเงินส่วนใหญ่แล้ว
  • มุมมองของเรา: ปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลในครั้งนี้ค่อนข้างน้อย (13% ของเหตุการณ์ครั้งก่อน) และความเสียหายถูกควบคุมได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาประมาณ 12–15 ชั่วโมง ต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นอาจอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านดอลล่าร์ฯ/สัปดาห์ แต่ผลกระทบนี้จะลดลงในระหว่างการปิดซ่อมบำรุงหน่วย CDU-3 ตามแผนในเดือน ก.ค. (เป็นเวลา 30 วัน) ทั้งนี้ ความเสี่ยงหลัก ได้แก่ เมื่อไรกรมเจ้าท่าจะอนุญาตให้ทุ่น SBM-2 กลับมาดำเนินงานอีกครั้ง

มุมมอง KS

  • แนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 33.30 บาท เหตุการณ์นี้ถือเป็นสัญญาณเชิงลบในระยะสั้นและมีผลกระทบค่อนข้างจำกัด

 

- Advertisement -