กลุ่มการเงิน ราคารถมือสอง ยังแข็งแกร่ง

บล.กสิกรไทย:

• ธปท. รายงานดัชนีรถมือสองเดือนเม.ย. ที่ 97.85 (+1% MoM และ +19 % YoY) และดัชนีรถบรรทุกมือสองที่ 63.53 (-4% MoM และ -2% YoY)
• คาดราคารถมือสองจะยังอยู่ที่ระดับเฉลี่ยรอบ 7 ปี แต่ราคารถบรรทุกมือสองจะอยู่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยรอบ 7 ปี จากแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
• คงมุมมองบวกต่อกลุ่มสินเชื่อป้ายทะเบียนแต่มีมุมมองลบต่อกลุ่มสินเชื่อรถบรรทุก เรายังเลือก TIDLOR และ SAK เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มการเงิน

Highlights

• ราคารถมือสองอยู่ระดับเฉลี่ยรอบ 7 ปี ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีราคารถมือสองเดือนเม.ย. ที่เพิ่มขึ้นเป็น 97.85 เพิ่มขึ้น 1.4% MoM และ 19.3% YoY และใกล้เคียงกับระดับ 7 ปี (ปี 2561-ปัจจุบัน) ที่ 98.67 ดังนั้น เราจึงคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับผลขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการขายรถยึดของกลุ่มผู้ประกอบการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์และธนาคารขนาดเล็ก (KKP, TISCO, MTC, TIDLOR และ SAK)
• คาดราคารถมือสองจะแกว่งตัวอยู่ที่ระดับเฉลี่ยรอบ 7 ปี เราคาดว่าดัชนีราคารถมือสองจะแกว่งตัวอยู่ที่ระดับเฉลี่ยรอบ 7 ปีที่ประมาณ 99 นื่องจากเราคาดว่าอุปสงค์รถมือสองจะลดลงแค่เล็กน้อย เมื่อเทียบกับของยอดขายรถใหม่ที่ลดลงมาก นอกจากนี้ เราเชื่อว่าผู้ประกอบการกลุ่มการเงินได้ผ่านพ้นช่วงสูงสุดของการยึดรถคืนอย่างเข้มข้นไปแล้ว ซึ่งน่าจะส่งผลให้อุปทานรถยนต์มือสองลดลง ดังนั้น เราจึงคาดว่าอุปทานรถมือสองที่ลดลงและอุปสงค์ที่อ่อนตัวลงเล็กน้อยจะมีความสมดุลซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี
• คาดราคารถบรรทุกมือสองลดลงต่อเนื่อง ดัชนีราคารถบรรทุกมือสองเดือนเม.ย. อยู่ที่ 63.53 ลดลง 4.3% MoM และ 1.6% YoY มูลค่ายังต่ำกว่าระดับเฉลี่ยรอบ 7 ปี ที่ 89.99 อยู่ 29% ดังนั้น เราจึงคาดว่าผู้ประกอบการสินเชื่อรถบรรทุก (ASK, THANI, และ MICRO) จะรับรู้ผลขาดทุนเพิ่มเติมจากการขายรถบรรทุกที่ถูกยึดมา
• คาดราคารถบรรทุกมือสองจะไม่กลับมาอยู่ระดับเฉลี่ย เราคาดว่าราคารถบรรทุกมือสองจะยังอยู่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยรอบ 7 ปี จากอุปทานรถบรรทุกที่ถูกยึดที่ล้นตลาด และอุปสงค์ไม่เพิ่มขึ้นตามอุปทาน เราคาดว่าอุปสงค์รถบรรทุดจะได้รับผลกระทบจาก GDP ที่เติบโตน้อยลง การลงทุนของภาคเอกชนที่ลดลงและความไม่ชัดเจนเรื่องนโยบายภาษีของทรัมป์ที่ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกลดลง

- Advertisement -