บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
Carabao Group (CBG.BK/CBG TB)*
โตชะลอลงท่ามกลางแรงกดดัน
Event : ประมาณการ 2Q68F และอัปเดตธุรกิจ
Impact
มองแนวโน้มเป็นลบเล็กน้อย
เรามีมุมมองเชิงลบเล็กน้อยต่อแนวโน้มการดำเนินงานใน 2Q68F ของ CBG หลังจากได้รับ guidance ใหม่จากการประชุมนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุด ดังนี้ i) การเติบโตดูชะลอลงกว่า guidance เดิมใน 1Q68 จากการแข่งขันที่รุนแรง โดยกำไรน่าจะต่ำกว่า consensus ราว 5% ii) เผชิญกับปัญหาโลจิสติกส์เล็กน้อยได้ ทำให้คำสั่งซื้อของกัมพูชาบางส่วนล่าช้าออกไปใน 3Q68 iii) อาจปรับลดเป้าส่วนแบ่งการตลาดปี 2568 iv) CBG อาจต้องอุดหนุนต้นทุนค่าขนส่งนำเข้าบางส่วนของผู้จัดจำหน่ายในกัมพูชา (เปลี่ยนจากทางบกเป็นทางเรือ) ซึ่งกดดันต่อ margin เล็กน้อย สำหรับในประเทศไทย CBG กำลังทบทวนข้อมูลอัปเดตส่วนแบ่งตลาดเชิงปริมาณจาก Nielsen หลังจากรายงานตัวเลขเบื้องต้นเดือน พ.ค. 68 อยู่ที่ 25.1% อย่างไรก็ดี CBG คาดว่าตัวเลขที่ปรับใหม่แล้วจะยังคงอยู่ในช่วง 25–26% (เทียบกับ 25.7% ในเดือนเม.ย. 68) ส่วนข้อมูลล่าสุดเดือน มิ.ย. อาจประกาศในสัปดาห์หน้า
ประมาณการ 2Q68F – กำไรน่าจะชะลอกว่าที่คาดไว้เดิม
วันที่ 6 ส.ค. เราคาดว่า CBG จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q68F ที่ 805 ล้านบาท (+6% QoQ และ +17% YoY) การเพิ่มขึ้น QoQ จะเกิดจากยอดขายผลิตภัณฑ์แบรนด์ของตนเองเพิ่มตามฤดูกาลและรายได้รับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอกสูงขึ้น ส่วนกำไรที่เพิ่ม YoY จะช่วยหนุนจากยอดขายในประเทศแข็งแกร่งขึ้น (ส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นและการขยายช่องทางจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น) และประสิทธิภาพลดต้นทุน (ต้นทุนน้ำตาล อะลูมิเนียม และการตลาดลดลง) แม้ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศจะลดลง สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) น่าจะทรงตัวที่ 27.3% (เทียบกับ 27.4% ใน 1Q68) จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นถูกกลบด้วยภาษีน้ำตาล ในขณะทียอดขายในประเทศโตชะลอลง แต่ตลาดต่างประเทศ (นำโดยเมียนมา) มีแนวโน้มดีขึ้น เวียดนามและตะวันออกกลางก็เติบโตได้ดีเช่นกัน แต่ยังคงมีสัดส่วนรายได้น้อยอย
ความท้าทายเข้ามาใน 2H68
ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่เอื้ออำนวย CBG อาจปรับลดเป้าส่วนแบ่งตลาดเชิงปริมาณปี 2568 ลงเหลือ 27% (จาก 29%) ขณะที่ เราคาดกำไรหลัก 1H68F ที่ 1.6 พันล้านบาท (+19% YoY) ซึ่งคิดเป็น 51% จากประมาณการของเราและ 49% ของ consensus มีความเสี่ยงขาลงเล็กน้อย ส่วนกำไร 2H68 น่าจะท้าทายเทียบ HoH โดยถูกกดดันจากปัจจัยฤดูกาล (เป็นช่วงหน้าฝนและการส่งออกอ่อนแอ) และการแข่งขันรุนแรง แม้ราคาน้ำตาลและอะลูมิเนียมจะลดลงก็ตาม ในขณะนี้ โรงงาน JV ในย่างกุ้ง (COD ในเดือน ก.ค. 68) และพนมเปญ (SCOD: ธ.ค.68) น่าจะช่วยดัน margin ขึ้นได้ราว 100–150bps ในระยะยาว
Valuation & action
เรายืนคำแนะนำ “ถือ” ประเมินราคาเป้าหมายที่ 52.00 บาท (อิงจาก PE ที่ 17x และค่าเฉลี่ย 3 ปีในอดีต -1.5SD) ขณะที่ เรามองว่าปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเติบโตในประเทศไทยชะลอตัว แนวโน้มส่วนแบ่งตลาดที่ไม่ชัดเจน และความเสี่ยงในกัมพูชาที่คลุมเครือ (20% ของยอดขายรวม, ~25% ของกำไรสุทธิ) อาจฉุดรั้ง valuation และผลักดันให้ตลาดปรับลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายลงอีก ทั้งนี้เราเห็นว่า risk–reward จะพลิกกลับมาดีขึ้นก็ต่อเมื่อปัญหาในกัมพูชาได้รับการแก้ไขด้วยดี
Risks
การแข่งขันเข้มข้น, เศรษฐกิจชะลอตัว, พฤติกรรมผู้บริโภคและต้นทุนวัตถุดิบต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไป