“Selective Play”

CNS Daily Strategy: คาดตลาด “Down” ต้าน 1622/1627 จุด รับ 1588/1579 จุด ตลาดโลกผันผวนจากแนวโน้มที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด โดยประธาน FED สาขาเซนต์หลุยส์เผยว่า FED อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งแรง ยิ่งทำให้ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าไว สู่ระดับ 92.2 จุด สูงสุดในรอบ 2 เดือน กดดันค่าเงินเอเชียอ่อนค่าในเชิงเปรียบเทียบ ทำให้ Fund Flows ในเอเชียผันผวนหนัก

ขณะที่ภายใน ยอดผู้ติดเชื้อยังทรงตัวสูง แต่วัคซีนมีประเด็นบวก โดยกทม.จะกลับมาเดินหน้าฉีดวัคซีนพรุ่งนี้ และ Sinopharm จะเริ่มฉีด 25 มิ.ย. ขณะที่ศบค.ผ่อนคลาย 8 กิจการ มีผลวันนี้ เพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่ม Re-Opening วันนี้แนะ “Selective Play” : BEC, CPALL

Nomura : Key Factors

· (-) US : ประธาน FED สาขาเซนต์หลุยส์เผยว่า FED อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งแรง

· (+) OIL: วานนี้ WTI +0.60$(+0.84%) สู่ 71.64/bbl, BRT +0.43$(+0.59%) สู่73.51/bbl

· (-) Asia: ต่างชาติขายสุทธิ 3 วันติดต่อ่กัน รวม -2,214 ล้านเหรียญ

· (+) TH: กทม.เตรียมกลับมาเดินหน้าฉีดวัคซีนพรุ่งนี้ สำหรับผู้ที่จองฉีดผ่านไทยร่วมใจ

· (+) TH: บริษัทที่จองวัคซีน Sinopharm ผ่านราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะเริ่มฉีด 25 มิ.ย.

· (+) TH: ศบค.ผ่อนคลาย 8 กิจการ มีผลวันนี้ เพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่ม Re-Opening

· (*) Fund Flows: หุ้น -2,250 ลบ, สัญญา Future -2,248 สัญญา, Bond +2,149 ลบ

Nomura Daily Top Picks: BEC, CPALL

Equity Daily Outlook : คาดตลาด “Down” ต้าน 1622/1627 จุด รับ 1588/1579 จุด ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังคงผันผวน จากแนวโน้มที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธาน FED สาขาเซนต์หลุยส์เผยว่า FED อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งแรง ยิ่งทำให้ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าไว สู่ระดับ 92.2 จุด สูงสุดในรอบ 2 เดือน ทำให้ทิศทาง Fund Flows ในเอเชียผันผวนหนัก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาต่างชาติขายสุทธิในทุกประเทศ รวมกว่า -1,121 ล้านเหรียญ และเป็นการขายสุทธิ 3 วันต่อเนื่องรวม -2,214 ล้านเหรียญ

ส่วนไทย เราเห็นแรงขายเร่งตัวขึ้น โดยสัปดาหที่ผ่านมา ขายสุทธิรวม -235 ล้านเหรียญ ขณะที่มีโอกาสเห็น Flows ไหลออกต่อเนือง หลังค่าเงินเอเชียและค่าเงินบาทอ่อนค่าไว กดดันตลาดเอเชียและไทย ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่ยังทรงตัวสูง โดยวันนี้เพิ่มขึน 3,175 ราย แบ่งเป็น ทั่วไป 3,035 ราย เรือนจำ 140 ราย เสียชีวิต 29 ราย และ การฉีดวัคซีนวันที่ 19 มิ.ย.ยังทำได้น้อย(โดส1+2) 104,095 โดส

ทั้งนี้ วัคซีนมีประเด็นบวก ล่าสุดกทม.เตรียมกลับมาเดินหน้าฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่จองฉีดผ่านไทยร่วมใจวันที่ 15-18 มิ.ย. จะกลับมาฉีดได้ในวันพรุ่งนี้ ส่วนบริษัทที่จองวัคซีน Sinopharm ผ่านราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ วัคซีนถึงไทยแล้ว และจะเริ่มฉีดได้วันที่ 25 มิ.ย. แนะติดตามยอดฉีดวัคซีนรายวันว่าจะเร่งตัวขึ้นหรือไม่

ทั้งนี้ ศบค.ประกาศผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดเพิ่มเติม โดยเปิด 8 กิจการ ได้แก่ 1)สระว่ายน้ำสาธารณะ 2)สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา 3)ศูนย์การเรียนรู้ 4)ห้องสมุด 5)ร้านอาหาร ให้ให้นั่งทานในร้านได้ไม่เกิน 23.00 น. แต่นั่งได้ 50% และห้ามการดื่มสุรา 6)สนามกีฬากลางแจ้ง 7)ร้านสะดวกซื้อ เปิดได้ 24 ชม. 8)กิจกรรมสัมมนา ประชุม ทำได้แต่ไม่เกิน 50 คน มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เป็นบวกต่อกลุ่ม Re-Opening

Daily Strategy : ค่าเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่าแรง จากความเสี่ยงที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด กดดันตลาดโลกปรับฐาน กลยุทธ์แนะ Selective รายกลุ่ม เน้น Earnings กลุ่มส่งออกที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า-ต้นทุนลดจากราคาโภคภัณฑ์ที่จีนควบคุม กลุ่ม SET50-100 กลุ่มประกัน และRe-Opening ขณะที่คงน้ำหนักการลงทุนที่ 50%

Research Highlight :

BEC (TRADING BUY, TP12.4) : เรามีมุมมอง Slightly Positive ต่อหุ้น BEC ช่อง 3 ได้สิทธิ์ร่วมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ช่วงวันที่ 20-24 มิ.ย. แม้จะไม่สามารถหารายได้ค่าโฆษณาจากการถ่ายทอดสดดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม คาดช่อง 3 ได้เรตติ้งจากการถ่ายทอดสดการแข่งขันหนุนโมเมนตัมเรตติ้งของช่องให้เพิ่มขึ้นต่อ คงคำแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 12.40 บาท (Best case 15 บาท)

COMMERCE (BULLISH) : เรามีมุมมอง Slightly positive sentiment ต่อข่าวกทม. คลายล็อกร้านสะดวกซื้อเปิดตามปกติ เริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยคาด CPALL (รายได้ร้านสะดวกซื้อ 61%ของทั้งหมด) จะได้ประโยชน์สูงสุดตามด้วย BJC (12-13%ของรายได้รวม) ทั้งนี้ หากอิงจากชั่วโมงทำการที่จะเพิ่มขึ้นจากคำสั่งเดิม (ปิด 5 ทุ่ม-ตี 4) และสัดส่วนรายได้จากสาขาในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เราคาดจะมีผลต่อรายได้ของ CPALL และ BJC ราว +3-4% และ +0.5-1.0% ตามลำดับ เราคงน้ำหนักการลงทุน BULLISH โดยเลือก CRC (TP40) และ BJC (TP43) เป็นหุ้นเด่นจากการที่เป็นผู้ประกอบการที่จะได้อานิสงส์สูงสุดจาก i) การคลาย Lockdown และการท่องเที่ยวที่จะค่อยๆฟื้นตัวในช่วง 2H21F โดยเฉพาะผู้ที่มีธุรกิจในยุโรป (CRC) ที่คาดฟื้นตัวได้ก่อน และ ii) มี Valuation ยังไม่แพง EV/EBITDA ปี 21F ที่ยังถูกกว่าค่าเฉลี่ยกว่ากลุ่ม แต่หากเน้นเฉพาะช่วง 1H21F เรามอง GLOBAL (TP28) จะดูน่าสนใจสุด

(+) Cost Reduction: ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ถ่วงราคาถั่วเหลืองลงต่อ -0.5% บวกต่อ CPF ผสานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) แถลงจีนจะยังคงทำการระบายสต็อกโลหะภาคอุตสาหกรรม ซึ่งได้แก่ ทองแดง อะลูมิเนียม และสังกะสี จากคลังสำรองแห่งชาติต่อไป ส่งผล ทองแดง -3.64% อะลูมิเนียม -2.81% บวกต่อหุ้นชิ้นส่วน(KCE,HANA) เครื่องดื่ม(CBG,OSP,ICHI,SAPPE) จากแนวโน้มต้นทุนลดลง

(+) Cannabis/Hemps: ช่วงที่เหลือของเดือน มิ.ย. 2021 เราคาดว่าจะเป็นจุดทยอยประกาศใบอนุญาต โรงสกัดกัญชง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม และช่วงถัดไป การพิจารณา การใช้ CBD/THCเป็นส่วนผสมของการใช้ภายในจะเริ่มขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มหุ้นที่เตรียมผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ กลยุทธ์ แนะนำเก็งกำไร กลุ่มต้นน้ำ RBF, GUNKUL กลุ่มการสกัด RBF, KWM และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม OSP, ICHI, SAPPE

SET50/100 Rebalance ตลาดประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่แล้ว พบว่า

หุ้นที่เข้า SET50 รอบนี้มี 4 บริษัท คือ STGT, IRPC, STA, KCE(Surprise ตลาด)
หุ้นที่หลุด SET50 รอบนี้ 4 บริษัท คือ AWC(พลิกหลุด), BAM(พลิกหลุดแทน HMPRO), TOA, VGI
หุ้นที่เข้า SET100 รอบนี้มี 9 บริษัท คือ STGT, NRF(พลิกเข้าแทน RCL), PSL, PTL, SYNEX, SINGER, ICHI, TKN, AAV (3ตัวหลัง surprise ตลาด)
หุ้นที่หลุด SET100 รอบนี้ 9 บริษัท คือ AWC, EPG, BPP, GFPT, MBK, TOA, TPIPP, TTW, WHAUP
กลยุทธ์เราเน้นหุ้นที่พื้นฐานเด่นและ Surprise ตลาด แนะนำ SET50 เด่นสุด คือ IRPC, KCE และ SET100 เน้น ICHI, AAV

June Top Picks : CRC, IRPC, BEC, TVO, ICHI, SAPPE

2Q21 Strategy : Cyclical, Hedging Inflation, Value, and Laggard Plays : BBL, BDMS, BJC, CPALL, CPF, TOP, TVO, HANA, SCC, SCGP, SPALI / Mid-Small cap picks : SPA, ICHI, SAPPE, BEC

2Q21F Strategy : What do rising US yields mean for Asian equities?

Theme: 2Q21 Cyclical, Hedging Inflation, Value, and Laggard Plays : BBL, BDMS, BJC, CPALL, CPF, TOP, TVO, HANA, SCC, SCGP, SPALI

Mid-Small cap picks : SPA, ICHI, SAPPE, BEC

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

BEC (Best case TP 15*): S 13.2/13.0 R 14.5/15.0 (Stop Loss: 12.5)

Theme: Earnings play

Earnings outlook: ผลประกอบการปีนี้คาดหวังการ Turnaround พลิกมากำไรครั้งแรกในรอบ 4 ปี ที่ 791 ลบ. จากการลดต้นทุนธุรกิจครั้งใหญ่ ขณะที่ ด้านรายได้ทยอยฟื้นตัว โดยคาดกำไร 2Q21F 166 ลบ (พลิกจากขาดทุน y-y, +19% q-q) จากทั้งต้นทุนลด และรายได้ทยอยฟื้น จากการกลับมาของคุณสรยุทธ

Valuation: แม้ราคาหุ้นซื้อขาย PER 21F แพงที่เกือบ 40 เท่า แต่เป็นเพราะธุรกิจต้องใช้เวลาค่อยๆฟื้นตัว (ภาพจะเหมือนหุ้น Turnaround ปกติ ที่ช่วงแรงจะดูแพงกว่าปกติ) แต่อย่างน้อยที่สุด ยืนยันได้ว่า ธุรกิจผ่านจุดร้ายที่สุดใปแล้ว มองราคาปัจจุบัน ยังสามารถเก็งกำไรได้

Catalyst: ธุรกิจอยู่ในช่วง turnaround หลังปรับโครงสร้างธุรกิจเสร็จ ลดต้นทุน + จิตวิทยาบวกจากการร่วมถ่ายทอดบอลยูโร บางนัด เพิ่มเรตติ้ง

CPALL (TP21F 68*): S 61.0/60.0 R 62.5/63.5 (Stop Loss: 59.0)

Theme: Reopening play

Earnings Outlook: ระยะสั้นกำไร 2Q21F คาดลด q-q. y-y แต่เป็นภาพเดียวกับกลุ่มฯจากผลกระทบโควิด และปัจจัยเฉพาะตัวค่าใช้จ่าย Refinance เงินกู้ดีลโลตัส แต่คาดกำไรจะดีขึ้นใน 2H21F และฟื้นตัว 39% ใน 22F + ระยะกลางยาว ยังมองบวกต่อแนวโน้มการบริโภค และโอกาสเปิด 7-11 ในลาวกัมพูชา และการเพิ่มธุรกิจ/บริการเสริมในชีวิตประจำวันมากขึ้น (Retail banking + Logistic + บริการเสริมใน 7-11)

Valuation: ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER -1 SD ที่ระดับ PER22F 30 เท่า มองเป็นจุดเข้าลงทุนได้

Catalyst: กทม ผ่อนคลายร้านสะดวกซื้อกลับมาเปิดได้ 24 ชม เริ่ม 21 มิ.ย. นี้ + ข่าวบวกมีโอกาสเปิดสาขาในกัมพูชาเร็วกว่าคาด ได้ทันปีนี้ ช่วยสร้าง Footprint ในประเทศที่เติบโตสูงของกลุ่มบริโภค

- Advertisement -