รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“ต่างประเทศปิดทำการ-โอเปกเลื่อนไม่มีกำหนด-ผู้ติดเชื้อลด”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้: —
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วันจันทร์ ขึ้นเล็กๆ ปิด +0.79 จุด ที่ 1579.28 จุด มูลค่าบาง 58 พันลบ. ตลาดขึ้นน้อยกว่าเพื่อนบ้าน ทำยอดสูงสุดที่ 1582.46 จุด มีการรีบาวด์ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไทยสูงทำนิวไฮติดสายพันธ์DELTA ตลาดไม่กังวลเงินเฟ้อจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐสูง และโอเปกเลื่อนประชุมมาวันจันทร์หุ้นขึ้นดีGLOBAL และ TGH ส่วนปรับลงคือ CPNREITและ PSLรายย่อยซื้อสุทธิ0.9 พันลบ.สถาบันขายสุทธิ0.4 พันลบ. YTDต่างชาติขายสูงถึง 80 พันลบ.
ปัจจัยบวก
วันนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ปรับลงบ้างเป็น 5,420 ราย แต่เสียชีวิตยังสูง 57 ราย รักษาหาย 3,586 ราย
ยุโรป: ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการ มิ.ย.เป็น 59.5 สูงสุดในรอบ 15 ปี
ปัจจัยลบ
จีน-ดัชนีภาคบริการจีนชะลอตัว รวมทั้งความกังวลรัฐบาลจีนสั่งถอดแอปพลิเคชันตีตีชูสิง
แนวโน้มการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย (เดลตา) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปัจจัยที่น่าติดตาม
โอเปกยังไม่มีข้อตกลง เลื่อนประชุมนโยบายผลิตน้ำมันไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะ UAE ค้าน
สัปดาห์นี้ติดตามทยอยประกาศงบ 2Q64,งบพื้นฐานไบเดน และรายงานประชุมเฟด
# กลยุทธ์: คาด SET ไซด์เวย์ ต่างประเทศปิดทำการ-โอเปกเลื่อนไม่มีกำหนด-ผู้ติดเชื้อไทยลด ตลาดต่างประเทศขาดทิศทางช่วงสั้น เพราะเป็นวันชาติสหรัฐ ส่วนการประชุมโอเปกยังตกลงกันเรื่องเพิ่มการผลิตตั้งแต่ ส.ค.64 ไม่ได้ โดย UAE คัดค้าน จึงเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด แต่ตลาดน้ำมันในตลาดอิเล็กโทรนิกส์เพิ่มขึ้น วันนี้ผู้ติดเชื้อไทยลดลงมาระดับ 5 พันเศษ ดีขึ้น แต่ต้องรอดูในระยะยาวมากกว่า ผลกระทบไฟไหม้ที่ถนน กิ่งแก้ว สมุทรปราการกระทบ บจ.จำกัด เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน และดาวโจนส์ล่วงหน้าอยู่ในแดนบวก SET วันนี้มีโอกาสจะเก็งกำไรต่อ แต่เป็นลักษณะไซด์เวย์แคบๆมากกว่า รอข่าวใหม่ๆ แนวต้านถัดไปคือ 1585-1590 เก็งกำไรหุ้นมีข่าว เช่น 1) EA จะจับมือกับไชน่าเรลเวย์ฯ 2) ราคาน้ำตาลในตลาดโลกทำยอดสูงสุด เก็งกำไร KSL,KTIS 3) รัฐบาลผ่อนผันแคมป์คนงาน ทำใต้ดิน RT, SEAFCO ได้ประโยชน์ และ 4) พรุ่งนี้มีหุ้นเข้าตลาดฯใหม่คือ MENA ตลาด SET ทำธุรกิจโลจิสติกส์ ราคา IPO 1.20บาท
# Stock Pick Today: APURE หุ้นส่งออกที่ยังปรับขึ้นช้า เป็นผู้นำตลาดข้าวโพดหวานกระป๋อง มีสัดส่วนการส่งออกราว 90% แต่วัตถุดิบใช้ภายในประเทศ จึงคาดว่าจะได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่ามาก ส่วนกำไรปกติก็คาดว่าจะโตต่อเนื่องสู่จุดสูงสุดใหม่ เฉลี่ยราว 11.7% 2-year CAGR ในปี2564-2565 หนุนโดย utilization rate ที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง ฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ และอัตราเงินปันผลอยู่ในระดับน่าสนใจยิลด์ราว 3.2% ให้ราคาพื้นฐาน 5.10 บาท
# วิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators ยังเป็นลบ {แม้“ปิดบวก”(ก็เล็กน้อย)ใต้“SMA10วัน” (โดยมี“สัญญาณ Overbought + Divergence ในกราฟรายวัน”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบยังให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(ถ้ามี/ มี“Oversold ในกราฟรายนาที”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้แนวต้าน 1590 – 1600 (หรือ1610) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1575” (แนวเด้งสั้น “1560 – 1550 / 1530”) จุด}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
• ตลาดหุ้นสหรัฐ น้ำมัน และทองคำ ปิดทำการ ขาดทิศทางชั่วคราว
# ตลาดหุ้นสหรัฐ น้ำมัน และทองคำ ปิดทำการวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมาเนื่องในวันชาติสหรัฐ
• โอเปกยังไม่มีข้อตกลง เลื่อนประชุมนโยบายผลิตน้ำมันไปอย่างไม่มีกำหนด
# ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นทะลุแนว 76 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วงเช้านี้หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมออกไปโดยไม่มีกำหนดเนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) ปฏิเสธข้อเสนอการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต และยังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการกำหนดระดับการผลิตขั้นต่ำ โดยหวังว่าจะทำให้โควต้าการผลิตน้ำมันของ UAE เพิ่มขึ้น
• สหรัฐ: สัปดาห์นี้ติดตามทยอยประกาศงบ 2Q64,งบพื้นฐานไบเดน และรายงานประชุมเฟด
# การเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียน และความคืบหน้าของกฎหมายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งอาจจะช่วยหนุนตลาดหุ้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง
# นอกจากนี้ นักลงทุนจะรอการเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนมิ.ย.ของเฟดในสัปดาห์หน้าด้วย เพื่อพิจารณามุมมองเกี่ยวกับเงินเฟ้อ, วงเงินซื้อพันธบัตร และทิศทางอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังขยายตัว
+ ยุโรป: ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการ มิ.ย.เป็น 59.5 สูงสุดในรอบ 15 ปี
# ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 59.5 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 57.1 ในเดือนพ.ค.
จีน: ดัชนีภาคบริการจีนชะลอตัว รวมทั้งความกังวลรัฐบาลจีนสั่งถอดแอปพลิเคชันตีตีชูสิง
# ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกวานนี้โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อ หลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของดัชนีภาคบริการจีน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับข่าวรัฐบาลจีนสั่งถอดแอปพลิเคชันของบริษัทตีตีชูสิง (DiDi Chuxing) ออกจากแพลตฟอร์มแอปสโตร์ของจีน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
• อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือนมิ.ย.64 เพิ่มขึ้น 1.25% เป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
# กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือนมิ.ย.64 เพิ่มขึ้น 1.25% เป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 0.89% ส่วนไตรมาส 3 คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 2.13% และไตรมาส 4 ที่ 2.37% ทำให้โดยรวมทั้งปีนี้ เงินเฟ้อยังเป็นไปตามกรอบเป้าหมายเดิมที่ 0.7 – 1.7%
# ผลกระทบ: แม้อัตราเงินเฟ้อที่กลับมาสูงในระยะนี้เพราะฐานปีที่แล้วต่ำผิดปกติซึ่งเกิดจากการล็อกดาวน์เต็มที่มาตั้งแต่ เม.ย.63 แต่ยังไม่น่ากังวล คาดว่าเมื่อถึง 2H64 ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อจะเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้นพิจารณาได้จากอัตราการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อทั่วไป มิ.ย.64 ที่+1.25% ลดลงจาก พ.ค.64 ที่+2.44% ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่ชะลอลงมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกนง.ก็ยังไม่มีทีท่าจะยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินคือ คงอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ซึ่งสอดรับกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังอยู่ในภาวะถดถอยจากผลลบของการระบาดโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นในระลอก 3
+ การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “ยิ่งออมยิ่งได้” 10,000 ล้านบาท จำหน่ายหมดในเวลารวดเร็ว
# สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เผยผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “ยิ่งออมยิ่งได้” บนวอลเล็ต สบม.(สะสมบอนด์มั่งคั่ง) รุ่นอายุ 3 ปี วงเงิน 10,000 ล้านบาท หมดภายในไม่ถึง 3 ชม. ซึ่งพบว่ามีผู้สนใจลงทุนมากถึงกว่า11,000 ราย วงเงินซื้อเฉลี่ยต่อราย 842,176 บาท โดยผู้ลงทุนมีอายุระหว่าง 15-94 ปี ถือเป็นการปรับแนวคิดที่มีต่อพันธบัตรออมทรัพย์จากผลิตภัณฑ์เพื่อการออมเงิน เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุน และกระจายความเสี่ยงกับคนทุกกลุ่มอายุ ทุกกลุ่มรายได้
# ผลกระทบ: เป็นบวก การระดมทุนได้สำเร็จ จะทำให้การก่อหนี้จากภาครัฐเพื่อไปใช้ประโยชน์โดยเฉพาะการเยียวยาให้กับประชาชนอยู่รอดผ่านพ้นวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 ไปได้ให้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น-แนวโน้มการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย (เดลตา) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
# กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยแนวโน้มการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย (เดลตา) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยภาพรวมทั่วประเทศ พบว่าเพิ่มขึ้นจาก 16.36% มาเป็น 32.2% ขณะที่ในกรุงเทพฯ พบสายพันธุ์เดลตา คิดเป็นสัดส่วน 52% รองลงมาเป็นสายพันธุ์อังกฤษ (อัลฟา) คิดเป็นสัดส่วน 47.8% และสายพันธุ์แอฟริกาใต้ (เบตา) คิดเป็นสัดส่วน 0.2%
