รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
น่าจะเริ่มยืนได้ มูลค่าหุ้นดูน่าสนใจมากขึ้น
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันศุกร์จะเริ่มยืนได้ น่าจะมีช่วงปรับลงแต่มองว่าแรงซื้อน่าจะเริ่มเข้ามาเช่นกัน… แม้ว่าปัจจัยแวดล้อมยังคงเป็นลบ แต่ ณ ระดับปัจจุบันของดัชนีฯ น่าจะมีความเสี่ยงทางลงไม่มากแล้ว ทั้งนี้ ณ ราคาปิดเมื่อวานนี้ดัชนี SET เทรดที่ค่า earnings yield gap (EYG) 12 เดือนข้างหน้า ที่ 4.30% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของ EYG ที่ 4.10% (ค่า EYG ยิ่งสูง ยิ่งชี้ว่ามูลค่าตลาดหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้น) ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ มองว่านักลงทุนได้รับรู้ประเด็นข่าวการยกระดับมาตรการคุมเข้ม ที่จะเข้าสู่ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ในวันนี้ ไปมากพอสมควรแล้ว

ปัจจัยต่างประเทศ- เป็นลบเล็กน้อย:
i) ตลาดการเงินยังคงมีความกังวลต่อโมเมนตัมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ 3.73 แสนคน สูงกว่าที่ consensus คาดไว้ที่ 3.50 แสนคน และล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5.79 แสนล้านดอลล่าร์ฯ แต่อย่างใด

ii) ราคาน้ำมันดิบ WTi ฟื้นตัวเล็กน้อย หลังจาก EIA รายงานตัวเลขสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ ลดลง 6.9 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่ consensus คาดว่าจะลดลง 4.0 ล้านบาร์เรล…

ทั้งนี้สำหรับสัปดาห์หน้า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคเดือน มิ.ย. ที่จะออกมาในวันที่ 13 ก.ค.

ปัจจัยในประเทศ- เป็นลบ:
i) เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 9,276 ราย (ติดเชื้อภายในประเทศ 8,998 ราย และติดเชื้อภายในเรือนจำ 278 ราย)
ii) ในวันนี้ นายกฯ จะนั่งเป็นประธานการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ซึ่งน่าจะมีการยกระดับมาตรการฯ ใกล้เคียงกับที่ประกาศใช้ในช่วงการระบาดรอบแรก ในเดือน เม.ย. 2563

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร EPG, LEO, SIMAT
EPG (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท)
1) ประเมินแนวรับ 11.5 บาท และ 11.2 บาท / แนวต้าน 12.0 – 12.5 บาท (Stop loss 11.0 บาท)
2) ประเมินธุรกิจทั้ง 3 ส่วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยขณะนี้ในระดับที่ต่ำ โดยธุรกิจฉนวนที่สหรัฐฯยังเติบโตดีตามเศรษฐกิจสหรัฐฯ, ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ยังเติบโตดีตามการผลิตและส่งออกรถยนต์, ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกรับอานิสงส์ WFH และ Food delivery
3) ประเมินราคาน้ำมันเริ่มพักฐาน + ค่าเงินบาทอ่อน เป็นบวกต่อผลการดำเนินงาน … เราคาดไม่กระทบจากความเสี่ยงล๊อกดาวน์

LEO (เป้าพื้นฐาน 11.3 บาท)
1) ประเมินแนวรับ 9.7 บาท / แนวต้าน 10.5 – 10.8 บาท (Stop loss 9.5 บาท)
2) ประเมิน Earnings momentum เป็นบวกต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ไตรมาสติด (คาดกำไร 2Q64 และ 3Q64 จะทำจุดสูงสุดใหม่ติดต่อกัน) จากปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศยังโตเด่น (พิจารณาจาก ไทยส่งออกโต + Shanghai Containerized Freight index ทำจุดสูงสุดใหม่เรื่อยๆ) และ 3Q64 เริ่มรับรู้รายได้การส่งสินค้า ไทย-จีน (สินค้า E-commerce ไทย – จีน ผ่าน LEO ทั้งหมด จากการเป็นพันธมิตรกับทาง China post)
3) ประเมิน Forward PE ปีนี้ ±32 เท่า มีโอกาสลดลง จากการปรับประมาณการฯขึ้นอีก หาก 2Q-3Q ดีกว่าคาด … เราคาดไม่กระทบจากความเสี่ยงล๊อกดาวน์

SIMAT (เป้าพื้นฐาน 6.8 บาท)
1) ประเมินแนวรับ 5.3 บาท / แนวต้าน 5.7 – 6.0 บาท (Stop loss 5.2 บาท)
2) ประเมิน Earnings momentum เป็นบวกต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ไตรมาสติด โดยคาดกำไร 2Q64 – 3Q64 จะโต +YoY, +QoQ ต่อเนื่องกัน จาก
i) บ.ลูก ฮินชิซึ กำไรดีตามภาคการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออก
ii) รับรู้รายได้โครงการ USO (เน็ตชายขอบ) และ
iii) การลดค่าใช้จ่าย SG&A แบบมีนัยสำคัญหลังการเปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่เริ่มเห็นใน 3Q64
3) ประเมินเตรียมยื่นไฟลิ่ง บ.ลูก ฮินชิซึ ภายใน 2H64 เป็น Catalyst บวก ระยะสั้น (คาดหวัง Pre-emptive right)
4) Forward PE ปีนี้ ±24 เท่า ขณะที่คาดกำไรโต +240% YoY …

เราคาดไม่กระทบจากความเสี่ยงล๊อกดาวน์

หุ้นมีข่าว
(+) PACO แตกไลน์ผลิต ชิ้นส่วนรองรับรถอีวี (กรุงเทพธุรกิจ) PACO เปิดตัวสินค้าใหม่ “แบตเตอรี่คูลเลอร์” รองรับเทรนด์ตลาดรถยนต์อีวีโตส่งออกแล้ว “บังคลาเทศ-ศรีลังกา” ลุ้นออเดอร์สหรัฐเพิ่มปลายไตรมาส 3/64 มั่นใจรายได้รวมปีนี้ 800 ล้าน ปีหน้าแตะพันล้าน
(+) VIBHA ขยายเตียงต่อ งบทุบสถิติมีปันผล (ทันหุ้น) บิ๊ก VIBHA ลั่นผลงานปีนี้ทำนิวไฮตั้งแต่ก่อตั้งโรงพยาบาล ขยายเตียงรองรับผู้ป่วยไม่หยุด ล่าสุดแตะ 800 เตียง อัตราครองเตียง 100% ส่วนยอดสั่งวัคซีน Moderna ที่ 2.5 แสนราย เตรียมส่งมอบเงินให้องค์การเภสัชสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ แย้มข่าวดีปีนี้ลุ้นจ่ายปันผลมากกว่าปีก่อน หลังผลประกอบการโดดเด่น คืนกำไรผู้ถือหุ้น
(0 THCOM) กสทช.เมิน ‘รัฐมนตรีโอ๋’ กร้าวประมูลดาวเทียมต่อ (ข่าวหุ้น) “กสทช.” เมินรมว.ดีอีเอส “ชัยวุฒิ” (รัฐมนตรีโอ๋) เบรกประมูลวงโคจรดาวเทียม! หลังบอร์ดมีมติขยายระยะเวลาขอรับเอกสารเข้าร่วมการประมูลสิทธิวงโคจรดาวเทียมอีก 30 วัน เริ่ม 8 ก.ค.-6 ส.ค. 64 เปิดยื่นซองประมูล 11 ส.ค. 64 เลื่อนประมูลเป็นวันที่ 28 ส.ค. 64 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าร่วม-แข่งขันอย่างเสรี พร้อมชี้แจงการจัดประมูลครั้งนี้เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย
(+) XPG ส่งบริษัทในเครือเซ็น MOU เปิดตัวโทเคน ชำระค่าชาร์จรถไฟฟ้า (ข่าวหุ้น) XPG ส่ง “เอ็กซ์สปริง” บริษัทในเครือเซ็น MOU กับผู้ให้บริการชาร์จรถ EV เปิดตัวโทเคนดิจิทัลพร้อมใช้ Ready-to-Use Utility Token ปลายไตรมาส 3 นี้ เพื่อนำมาชำระค่าชาร์จรถ EV พร้อมส่วนลดค่าไฟและสิทธิพิเศษเพียบ
(+) TQR จับมือ BKI-ทิพยฯ รุกประกันภัย ‘กัญชง-กัญชา’ดันเบี้ยฯ (ข่าวหุ้น) TQR ผนึกกรุงเทพประกันภัย-ทิพยประกันภัย พัฒนา “กรมธรรม์ประกันภัยกัญชง-กัญชา” พร้อมบริหารความเสี่ยง หลังคปภ.อนุมัติกรมธรรม์ประกันภัยพืชเศรษฐกิจ กัญชงและกัญชา คาดเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ หนุนผลงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
SCGP* (เป้า Consensus 60.8 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 62 บาท)
GPSC* (เป้า Consensus 86.3 บาท) แนวรับ 72.5 บาท / แนวต้าน 75 – 77 บาท (Stop loss 72 บาท)
W (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนวรับ 3.3 บาท / แนวต้าน 3.5 – 3.6 บาท (Stop loss 3.2 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
RS* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 25.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 2Q64 = 90 ล้านบาท (-36% QoQ, -17% YoY) ผลการดำเนินงานที่คาดชะลอตัวลงเป็นผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้ง COGS และ SG&A ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับลดประมาณการฯ ปี 2564 – 65 ลง -31% และ -21% ตามลำดับ สะท้อนการปรับสมมติฐานใหม่ และปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 25.5 บาท (เดิม 32 บาท) แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากประเมินกำไรปี 2565 ยังเติบโตดี และฝ่ายวิจัยฯยังไม่ได้รวม Upside จากธุรกิจกัญชง

BDMS* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 26.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 2Q64 = 1.49 พันล้านบาท (+226% YoY, +11.5% QoQ) โดยกำไรที่คาดจะฟื้นตัวดีเป็นผลจาก ฐานต่ำในปีก่อน ขณะที่คาดผลการดำเนินงานใน 2H64 จะได้อานิสงส์จากประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 (วัคซีน, ตรวจ, รักษา)

Strategic SET daily
Market strategy Thailand

  จิตวิทยาตลาดวันนี้: — แนวต้าน 1546 จุด

วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1546 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1546-1565 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1546 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1546-1529 จุด

แนวรับวันนี้: 1541/1531 แนวต้านวันนี้: 1546/1561

- Advertisement -