ตลาดหุ้นวันนี้

ไปไหนได้ไม่ไกล 1545-1565

  • ไปไหนได้ไม่ไกล: เช้านี้คาดตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกข้างไปไหนได้ไม่ไกลในกรอบระหว่าง 1545-1565 จุด แม้มีโอกาสฟื้นตัวได้ก่อน ตามบรรยากาศลงทุนทางบวกในภูมิภาคหลังจีนประกาศลดอัตราการกันสำรอง RRR ลง 0.5% เพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องและหนุนการปล่อยกู้ให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กรับมือการเติบโตเศรษฐกิจที่ชะลอลง หากแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยที่ยังทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่องจนรัฐบาลโดยศบค.ต้องประกาศยกระดับมาตรการคุมเข้มขั้นสูงสุดในพื้นที่ 10 จังหวัด ขณะที่ในต่างประเทศความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุเ์ดลตาเริ่มมีมากขึ้น เกิดความเสี่ยงการเลื่อนเปิดเมืองและผ่อนคลายมาตรการออกไปเหล่านี้จะถ่วงให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างจจำกัด และเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นได้ตลอดทาง ทั้งนี้ SET Index สัปดาห์นี้หากไม่สามารถพลิกกลับไปยืน 1570 จุดได้จะยังคงเป็นแนวโน้มขาลงแข็งแกร่งต่อไป
  • โลกเริ่มกังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสายพันธุ์เดลตา: การระบาดของไวรัส COVID-19 สายพันธุ์เดลตาเริ่ม สร้างความกังวลให้กับเศรษฐกิจโลกรอบใหม่ หลังหลายประเทศต้องเริ่มกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มอีกครั้งหลังจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเร่งตัวขึ้น รวมถึงชะลอการเปิดเมืองออกไปอย่างนอ้ย 1-2 เดือนขณะที่ตัวเลข BondYield สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัว ลงแตะระดับ 1.3% ต่าที่สุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 64 ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ  Growth Stock กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง จึงต้องจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือน มิ.ย. 64 ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวลดลงจากเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอการเติบโตและทำให้นักลงทุนเริ่มมองท่าทีของ Fed ว่าน่าจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือลดวงเงินการทำ QE ลงในเร็ววันนี้เพื่อประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ จึงอาจทำให้ตัวดัชนี Dollar Index ชะลอการแข็งค่าได้บางส่วน
  • ไทยอ่วม! ติดเชื้อใกล้ทะลุหมื่น: จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันของไทยเร่งตัวต่อเนื่องในช่วงสุดสัปดาห์ใกล้แตะหมื่นราย ขณะท่ีตัวเลขผู้เสียชีวิตใกล้หลักร้อย ซึ่งต้องติดตามหลังประกาศใช้มาตรการคุมเข้มตั้งแต่ 12 ก.ค. 64 เป็นต้นไปว่าหลังครบ 2 สัปดาห์ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะชะลอลงหรือไม่ ทั้งนี้การลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้ต่ำกว่าหลักพันรายต่อวันยังมีความเป็นไปได้ยาก และ ศบค. คาดว่าอาจต้องใช้เวลาถึง 3 เดือนหรือถึงช่วง ก.ย. 64 จึงมองปัจจัย COVID-19 จะยังคงเป็น Overhang กดดันตลาดหุ้นไทยต่อไปให้ฟื้นตัวได้น้อยกว่าทั่วโลกและภูมิภาค
  • ปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้: 1) ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ มิ.ย.64 2) จีนประกาศตัวเลข GDP2Q64 และ 3) IMF เผยแพร่รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกโดยทางฝ่ายคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 64 น่าจะถูกปรับลดลง

PICKS OF THE DAY

BCPG BUY

ไม่มีผลลบจาก COVID-19: ผลกำไรมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน (แสงแดด 38%, น้ำ 24%, พลังงานใต้พิภพ33%, ลม5%) และปีนี้จะมีผลิตมากขึ้น 7% การเดินการผลิตราบรื่นไม่มีผลลบจาก COVID-19 มองธุรกิจเสี่ยงน้อยและกำไรมีเสถียรภาพ

หุ้นปลอดภัยช่วงนี้: ราคาหุ้นต่ำ P/B ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตเหมาะเป็นหุ้นหลบภัยในช่วงนี้

DTAC BUY

  • Downside Risk ต่ำ: แม้ COVID-19 จะยังกดดันการฟื้นตัวราคาหุ้นแต่คาดปรับตัวลงได้จำกัดเทียบกับรอบแรกที่มีการระบาดเกิดขึ้นแต่รุนแรงน้อยกว่า
  • ภาระ 5G ไม่มาก คาดจ่ายปันผลสูงได้: จากสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นช่วงสั้น DTAC จึงคาดได้ประโยชน์จากภาระ 5G ที่ไม่มาก และมีโอกาสจูงใจด้วยการจ่ายปันผลสูง คิดเป็น Div.Yield สูงราว 4-5% ณระดับราคานี้

 

- Advertisement -