บล.เอเชียพลัส:

ราคาหุ้นปรับฐานไปมาก Valuation น่าสนใจ

คาดกําไรสุทธิงวด 2Q64 จะลดลง 23% qoq (แต่เพิ่มข้ึนกว่า 3 เท่าตัวจาก งวด 2Q63) จากธุรกิจถุงมือยางอ่อนตัว ขณะที่ทิศทางกําไรสุทธิงวด 2H64 ยังถูกกดดันจากแนวโน้มราคาขายถุงมือยางที่อ่อนตัวลง ขณะท่ีธุรกิจยางพาราจะเห็นการฟื้นตัวตามทิศทางราคายางพาราท่ีปรับสูงข้ึน

ปรับลดประมาณกําไรสุทธิปี 2564-65 ลงเฉลี่ย 10% จากเดิม จากธุรกิจถุงมือยางอ่อนตัวมากกว่าคาด ทั้งนี้ ภายหลังปรับลดประมาณการ คาดกําไรสุทธิปี 2564 จะเติบโตถึง 75.9% yoy อย่างไรก็ตาม คาดกําไรสุทธิปี 2565 จะปรับ ลดลง 35.5% yoy จากแนวโน้มธุรกิจถุงมือยางอ่อนตัวลง ราคาหุ้นปรับฐาน ไปกว่า 26% ในรอบ 2 เดือน จนมี PER ปี 2564-65 3 เท่า และ 5 เท่า และ Div Yields ปี 2564-65 สูงถึง 10% และ 8% จึงยังแนะนําซื้อ

ธุรกิจถุงมือยาง กดดันแนวโน้มกําไรสุทธิงวด 2Q64

คาดการณ์กําไรสุทธิงวด 2Q64 เท่ากับ 4.6 พันล้านบาท (ต่ำกว่าที่คาดไว้เดิมราว 10%) ลดลง 22.6% qoq (แต่เพ่ิมขึ้นถึง 321.7% yoy) มีปัจจัยกดดันจากธุรกิจถุงมือยาง (49% ของรายได้รวม) อ่อนตัวลง สาเหตุหลักจากแนวโน้มราคาขายถุงมือยางเฉลี่ยงวด 2Q64 ปรับลดลง 15.0% qoq (แต่ปรับเพิ่มข้ึนถึง 197.1% yoy) ขณะที่คาดธุรกิจยางพารา (51% ของรายได้รวม) จะฟื้นตัวจากงวด 1Q64 จากแนวโน้มปริมาณขายยางพาราปรับ เพิ่มขึ้น 4.2% qoq และ 42.0% yoy มาที่ 3.4 แสนตัน นอกจากน้ี ยังได้ผลบวกจากแนวโน้มราคาขายยางพาราเฉลี่ยงวด 2Q64 ปรับเพิ่มข้ึนด้วยอานิสงค์จากการขายยางพาราล่วงหน้าราว 2 เดือน ซึ่งเป็นทิศทางราคายางท่ีอยู่ในช่วงขาข้ึน

โดยรวมแล้ว คาดการณ์กําไรสุทธิงวด 1H64 เท่ากับ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงกว่า 4.4 เท่าตัวจากงวด 1H63 และคิดเป็น 57% ของประมาณการกําไรสุทธิปี 2564 ที่ฝ่ายวิจัย ประเมินไว้ก่อนปรับปรุง

ลดประมาณการ…ธุรกิจถุงมือยางอ่อนตัวมากกว่าคาด

ปรับลดประมาณการกําไรสุทธิปี 2564-65 ลง 9.0% และ 10.1% จากเดิม สะท้อนธุรกิจถุงมือยางที่อ่อนตัวลงมากกว่าคาด จากการปรับลดสมมติฐานราคาขายถุงมือยางเฉลี่ยปี 2564-65 ลง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มสมมติฐานปริมาณขายยางพาราปี 2564- 65 ขึ้น 8.3% และ 7.7% จากเดิม สะท้อนจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หนุนปริมาณขายยางพาราดีกว่าคาด และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มปริมาณขายยางพาราในงวด 1H64 ที่ 6.7 แสนตัน

ท้ังน้ี ภายหลังปรับลดประมาณการ คาดกําไรสุทธิปี 2564 จะเพิ่มขึ้นถึง 75.9% yoy จากธุรกิจถุงมือยางและยางพาราเติบโต อย่างไรก็ตาม คาดกําไรสุทธิปี 2565 จะลดลง 35.5% yoy จากแนวโน้มราคาขายถุงมือยางปรับลดลง ทั้งน้ี คาดกําไรสุทธิงวด 3Q64 จะอ่อนตัวลงจากงวด 2Q64 จากแนวโน้มธุรกิจถุงมือยางอ่อนตัวลง หักล้างแนวโน้มธุรกิจยางพาราท่ีจะฟื้นตัวไปได้ท้ังหมด

Valuation ยังน่าสนใจให้เข้าลงทุน

กําหนด Fair Value ปี 2564 ใหม่เท่ากับ 47 บาท (เดิม 60 บาท) อิงวิธี SOTP ราคาหุ้น ปัจจุบันมี ค่า PER เพียง 3 เท่า นอกจากน้ี ยังให้ Div Yields สูงถึง 10% จึงยังแนะนําซื้อ

ประเด็นความเสี่ยง

  1. ความผันผวนของราคาขายยางพาราและถุงมือยางหากราคาขายลดลง จะกดดันแนวโน้มรายได้และกําไรสุทธิของ STA
  2. ความผันผวนของค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ หาก ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น จะกดดันแนวโน้มกําไรสุทธิของ STA
  3. ความผันผวนของราคาวัตถุดิบยางพารา หากราคา วัตถุดิบยางพาราปรับสูงข้ึน จะกดดันแนวโน้มกําไรสุทธิของ STA

แนะนํา : ซื้อ

ราคาปัจจุบัน (บาท): 37.25

เป้าหมาย: 47.00(บาท)

Upside (%): 26.17

Dividend Yield (%):10.07

 

 

 

- Advertisement -