OurView? ”พักอีกครั้ง” คาดวันนี้ตลาด “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ1,562/1,550
แนวต้านที่บริเวณ 1,574 / 1,585 คาดตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงลบเข้ากดดันจากทิศทางตลาดหุ้น ต่างประเทศ หลังเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มิ.ย. ดีดตัวข้ึน 0.9% (MoM) 5.4% (YoY) ปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาด กระตุ้นความกังวลการเร่งปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ขณะที่ CME FedWatch Tool ให้น้าหนักความน่าจะเป็น ของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในเดือน ธ.ค.’65 ที่ระดับ 90.0% และเดือน ม.ค.’66 ท่ีระดับ 100.0% คาดจะกดดันความกังวลที่มีต่อกระแสเงินทุนส่วนเกินท่ีอาจลดลงไปบ้างในระยะถัดไป กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ตามเรายังแนะนำติดตามการแถลงนโยบายการเงินและ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ต่อสภาคองเกรสใน วันท่ี 14-15 ก.ค. นี้ คาดอาจจะมีส่งสัญญาณการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินของ FED และการปรับลดวงเงินในการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในระยะถัดไปได้ เพื่อประเมินแนวโน้มของกระแสเงินทุนอีกครั้ง
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวข้ึน 1.15 เหรียญ ปิดที่ 75.25 ดอลลาร์/บาร์เรล (+1.55%) คาดได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่เรายังคงคาดราคาน้ำมันมีโอกาสเผชิญความผันผวนจากความไม่แน่นอนในนโยบายปรับเพิ่มกำลังการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไปของ OPEC+ หลังการประชุม OPEC+ ที่ผ่านมาไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้และถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด กดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานยังคงแกว่งตัวผันผวน จำกัด Upside ตลาดได้อยู่
ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกอ่อนๆ ต่อการออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการออกมาตรการคุมเข้ม 10 จังหวัดประกอบด้วย ม.33-ม.39-ม.40 ครอบคลมุ 9 กิจการ [(1) ก่อสร้าง (2) ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร (3) ศิลปะบันเทิงและนันทนาการ (4) กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ (5) ขายส่งและการขายปลีก ซ่อมยานยนต์ (6) ขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า (7) กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน (8) กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และ (9) ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร] โดยเป็นการให้เงินช่วยเหลืองบประมาณทั้งหมดราว 3 หมื่นล้านบาท คาดจะช่วยลดความตึงตัวของเงินในระบบได้บ้างในระยะสั้น เป็นจิตวิทยา เชิงบวกอ่อนๆ ช่วยหนุนทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้างเล็กน้อย
ขณะที่เรายังคงคาดตลาดหุ้นไทยปรับตัวรับรู้ความกังวลจากการออกมาตรการคุมเข้มในการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไปบ้างพอสมควรแล้ว ขณะที่มาตรการดังกล่าวคาดจะส่งผลกระทบน้อยกว่าการ Lockdown ในช่วง เม.ย. ท่ีผ่านมา คาดจะช่วยลดความรุนแรงของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศได้ในช่วง 2-4 สัปดาห์นี้ มองเป็นปัจจัยช่วยจำกัด Downside ของ ตลาดได้บ้าง
ธีมการลงทุน “Selective Play” หุ้นแนนำ “JMART”
รอซื้อเมื่อย่อตัว แนวรับ 35.75 / 35.25 Target 40.50 / 42.00 Stop <34.25
