บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

GLOBAL POWER SYNERGY คาด 4Q64 ประคองตัว ไม่โดดเด่น

Action

TRADING (Maintain)

TP upside (downside) -0.6%

Close Jan 21, 2022 Price (THB) 81.50

12M Target (THB) 81.00

Previous Target (THB) 81.00

What’s new?

  • คาดกำไรสุทธิ 4Q64 ที่ 1.9 พันล้านบาท ภาพรวมถือว่าผลประกอบการไม่เด่น โดยกำไรปกติคาดทำได้เพียงประคองตัว YoY และลดลง QoQ จากปัจจัยด้านฤดกูาลของ IPP และโรงไฟฟ้าน้ำในประเทศลาว, การปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า, และต้นทุนเชื้อเพลิงสูงขึ้น
  • อย่างไรก็ตาม ไตรมาสนี้จะมีการบันทึกเงินเคลมประกันภัยเข้ามาช่วย ทำให้กำไรสุทธิ +28% YoY และทรงตัว QoQ

Our View

  • ระยะยาวหุ้นยังมีความน่าสนใจจากการทยอย COD โรงไฟฟ้าท่ีอยู่ระหว่างก่อสร้าง, เป็น Flagship ด้านไฟฟ้าของกลุ่ม PTT, และมาตรการส่งเสริมการใช้งาน EV จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จในธุรกิจแบตเตอรี่
  • ท้ังนี้ กำไรปกติ 1Q65 จะฟื้นตัวอย่างช้าๆ เพราะยังถูกถ่วงจากการปิดซ่อมโรงไฟฟ้า GLOW Phase 5 (กลับมาผลิตเดือนก.พ.) และต้นทุนเชื้อเพลิงสูงขึ้น
  • งบ 4Q ไม่เด่น ปันผลไม่สูง และราคาหุ้นเต็มมูลค่า จึงไม่ต้องรีบซื้อ แนะนำรอเข้าลงทุนเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว

คาด 4Q64 ไม่เด่น แม้มีเงินเคลมประกันช่วยชดเชยผลกระทบได้บ้าง

คาด 4Q64 กำไรสุทธิท่ี 1.9 พันล้านบาท ดีขึ้น +28%YoY แต่ทรงตัว QoQ โดยภาพรวมผลประกอบการถือว่าไม่โดดเด่น สำหรับผลการดำเนินงานหลักคาดทำได้ 1.8 พันล้านบาท ทรงตัว YoY แต่ -19%QoQ จาก 1) Low season ของการใช้ไฟฟ้าในประเทศ ทำให้ผลประกอบการของโรงไฟฟ้า IPP ลดลง 2) ผลกระทบจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า GLOW Phase 5 เต็มไตรมาส (โรงไฟฟ้า GLOW Phase 5 หยุดซ่อมบำรุงนอกแผนตั้งแต่ 14 ส.ค. โดยผู้บริหารประเมินผลกระทบต่อกำไรขั้นต้น 5 ล้านบาท/วัน และให้ข้อมูลว่าจะกลับมาผลิตไฟฟ้าได้อีกครั้งเดือนก.พ.2565) 3) การปรับตัวขึ้นของต้นทุนก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP ต่ำลง 4) ไม่มีเงินปันผลรับจากราชบุรีพาวเวอร์ (RPCL) เหมือนไตรมาสก่อน 5) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูกลดลง เพราะผ่านช่วงไฮซีซั่นของปริมาณน้ำสำหรับโรงไฟฟ้าเขื่อนไซยะบุรีในประเทศลาว ทั้งนี้ 6) คาดว่าจะมีการรับรู้เงินเคลมประกันภัยจากความเสียหายกรณีหยุดผลิตนอกแผนของโรงไฟฟ้า GLOW Phase 5 เข้ามาช่วย ส่งผลให้คาดกำไรสุทธิอาจจะทรงตัว QoQ และดีขึ้น YoY

1Q65 เร่ิมฟื้ชนตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป

หาก 4Q64 เป็นไปตามคาด ผลประกอบการทั้งปีจะใกล้เคียงกับคาดการณ์กำไรสุทธิของเราท่ี 8.0 พันล้านบาท  (+7%YoY) สำหรับแนวโน้ม 1Q65 คาดทิศทางผลการดำเนินงานปกติทยอยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะแม้ว่าค่าไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า SPP จะได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นค่า Ft เดือนม.ค. – เม.ย. 2565 เป็น 0.0139 บาท/หน่วย จาก -0.1532 บาท/หน่วย อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานหลักยังถูกถ่วงด้วยการปิดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้า GLOW Phase 5 ราว 1–2 เดือน รวมทั้งการปรับขึ้นของต้นทุนเชื้อเพลิง ทั้งก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน คงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 9.0 พันล้านบาท (+16% YoY)

รอจังหวะเข้าลงทุนเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว

ระยะยาวเรายังชอบ GPSC ด้วย 1) การเติบโตจากการทยอยรับรู้โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง เช่น ERU, GLOW Phase 2, Avaada และการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไต้หวัน (CFXD) ที่จะปิดดีลได้ช่วง 2Q65 2) ความน่าสนใจจากการขยายลงทุนในพลังงานหมุนเวียน, แบตเตอรี่, เทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่สอดคล้องกับเทรนด์การใช้พลังงานในอนาคต 3) การเป็น Flagship ด้านไฟฟ้าในเครือ PTT ทำให้มีโอกาสการเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มฯ 4) มี Catalyst หนุนราคาหุ้นจากการอนุมัติมาตรการสนับสนุนการใช้งาน EV ของภาครัฐ ช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในธุรกิจแบตเตอรี่ ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่ยังไม่ได้ถูกรวมไว้ในประมาณการ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มงบ 4Q64 ไม่โดดเด่น และ 1Q65 จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป เงินปันผลงวด 2H64 ไม่สูงมากนัก คาด 1.20 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield 1.5% และราคา ณ ปัจจุบันเต็มมูลค่าพื้นฐานของเราท่ี 81.00 บาทแล้ว เชิงกลยุทธ์จึงมองว่าไม่ต้องรีบเข้าลงทุน คงแนะนำ TRADING เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนเมื่อหุ้นมี Upside gain มากกว่านี้

- Advertisement -