ยอดส่งออก (Export Value) ของไทยเดือน ก.พ.65 เพิ่มขึ้น 16.2%YoY มาอยู่ที่ 2.35 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากดูที่ดุลการค้า YTD65 พบว่ายังคงขาดดุลราว 2.4 พันล้านดอลลาร์ (นำเข้าเพิ่มขึ้นมากจากราคาพลังงาน) ส่งผลให้ค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง จึงแนะนำหุ้นส่งออกที่คาดกำไรปี 65 เพิ่มขึ้น YoY อาทิ SMPC และ MEGA ขณะที่ CPF ตั้งเป้ารายได้ปี 65 เพิ่มขึ้น 10%YoY รวมถึงเตรียมส่งออกไก่ไทยไปประเทศซาอุฯ ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า

SET Index ปิดที่ 1,680.89 (+2.94 จุด) มูลค่าการซื้อขายที่ 66,566 ล้านบาท

Interesting Issues

  • ตัวเลขการส่งออก (Export Value) ของไทยเดือน ก.พ.65 พบว่าเพิ่มขึ้น 16.2%YoY มาอยู่ที่ 2.35 หมื่นล้านดอลลาร์ (เดือน ม.ค.65 +8%YoY มาอยู่ที่ 2.13 หมื่นล้านดอลลาร์) ส่วนยอดนำเข้า (Import Value) เดือน ก.พ.65 เพิ่มขึ้น 16.8%YoY มาอยู่ที่ 2.34 หมื่นล้านดอลลาร์ (เดือน ม.ค.65 +20.5%YoY มาอยู่ที่ 2.38 หมื่นล้านดอลลาร์) ส่งผลให้ดุลการค้า (Trade Balance) ไทยเดือน ก.พ.65 เกินดุลราว 123 ล้านดอลลาร์ (เดือน ม.ค.65 ขาดดุล 2.53 พันล้านดอลลาร์) ทั้งนี้การที่ดุลการค้า YTD ขาดดุลราว 2.4 พันล้านดอลลาร์  รวมถึงแนวโน้มยอดส่งออกเดือน มี.ค.65 มีโอกาสได้รับผลกระทบเชิงลบจากปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่ยอดนำเข้ามีโอกาสเพิ่มขึ้นจากปัญหาราคาน้ำมันดิบแพง ส่งผลให้ทิศทางค่าเงินบาทจะยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง เราจึงแนะนำหุ้นส่งออกที่แนวโน้มกำไรเพิ่มึ้นน YoY อาทิ SMPC (FV65@15.50) และ MEGA (FV65@65.50)
  • CPF ปักธงรายได้ปีนี้โต 10% จากปีก่อนทำได้ 5.17 แสนล้านบาท มุ่งขยายธุรกิจในหลายๆ ประเทศ พัฒนาประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ เตรียมส่งออกไก่ไปซาอุฯ ภายใน 2-3 เดือนนี้ โชว์ 5 โรงงานที่ผ่าน อย.ของซาอุฯ มีกำลังการผลิตประมาณ 7,000-8,000 ตัน และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก นอกจากน้ีมีการเจรจาขอปรับเพิ่มราคาส่งออกเน้ือสัตว์ หลังต้นทุนอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น ส่วนกรณีสงครามรัสเซีย-ยูเครน กระทบน้อยมาก เหตุมีสัดส่วนยอดขายจากรัสเซียแค่ 3% ของยอดขายรวม (ที่มา: ทันหุ้น)
  • เมื่อวาน (24 มี.ค.) ราคาน้ำมันดิบ WTI (future เดือน พ.ค.65) ลดลง 2.53%DoD มาอยู่ที่ 112.02 เหรียญ/บาร์เรล ส่วนค่าระวางเรือ BDI ลดลง 0.31%DoD มาอยู่ที่ 2,567 จุด (ที่มา: investing.com และอีไฟแนนซ์ไทย)
  • วันน้ีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศรายงานที่ 26,050 ราย (ผู้ติดเชื้อใหม่ 26,014 ราย, จากเรือนจำ 36 ราย) ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 27,024 ราย

Today Strategy

ระหว่างที่สายพันธุ์โอมิครอนในไทยระบาด ระยะสั้นแนะนำให้ลงทุนหุ้น Healthcare (BCH, CHG) ขณะที่ภาพการลงทุนระยะกลาง เราแนะนำหุ้นส่งออก (Export) อาทิ SMPC และ MEGA เนื่องจากดุลการค้าประเทศไทย YTD65 ขาดดุลราว 2.4 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า (Baht Depreciation) ต่อเนื่อง ส่วนภาพการลงทุนระยะยาว หากสถานการณ์คลี่คลาย (เราให้น้ำหนักมากกว่า) ให้ลงทุนหุ้นกลุ่มเปิดเมืองและหุ้นที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจขาขึ้น (Recovery theme) อาทิ CPALL, CPN, AOT, KBANK, BBL, SCB, ORI

- Advertisement -