บล.เอเซีย พลัส:

เพิ่ม MWe อีกเกือบเท่าตัว ภายใน 3 ปีข้างหน้า

จากการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารขยายเป้าหมายการเติบโตไปสู่ 500 MWe ให้ได้ภายในปี 2568 จากปัจจุบันมี MWe ที่ COD แล้วกว่า 243 MWe เพื่อชดเชย adder ที่จะหมดลง และขยายการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง สำหรับกำไรสุทธิ 1Q65 อยู่ที่ 294.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.1%qoq หนุนจากฤดูกาล solar และการรับรู้โครงการใหม่เต็มไตรมาส ขณะที่ช่วงสั้น 2Q65 คาดกำไรอ่อนตัวเล็กน้อย QoQ ตามกระแสลมที่อ่อนตัวตามฤดูกาล

ประเมิน FV ปี 2565 อยู่ 13.3 บาท/หุ้น ภาพรวมกำไรในช่วง 2-3 ปีข้างหน้ายังเห็นการเติบโตขึ้นได้ต่อเนื่อง และโอกาสเติบโตจากธุรกิจใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันปผ่านการรับฐานจนเห็น upside กว่า 33% คงคำแนะนำซื้อ โดยเน้นให้หาจังหวะทยอยสะสมลงทุน

มุ่งเติบโตจาก solar company สู่ Renewable company ที่ครบวงจร

จากการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารได้ขยายเป้าหมายการเติบโตสู่ 500 MWe ภายในปี 2568 จากเป้าหมายเดิมที่คาดมากกว่า 400 MWe ซึ่งในปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ COD แล้ว 243.1 MW และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนาอีกราว 75.2 MWe พร้อมการกระจายสัดส่วน portfolio จากปี 2563 ที่มีธุรกิจโรงไฟฟ้า Solar 100% ให้มีสัดส่วนธุรกิจ renewable อื่นๆ ให้มากขึ้น ด้วยการแสวงหาโครงการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งปัจจุบันมีแผนในการเข้าพัฒนาโครงการต่างๆ อีกหลายโครงการ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ราว 180 MWe และโครงการอื่นๆ ที่เตรียม M&A อีกราว 2-3 โครงการ ทั้งนี้เพื่อสามารถชดเชยกับรายได้ Adder โครงการโรงไฟฟ้า solar SPN 40 MWe ที่จะหมดอายุลงในปี 2558 และเพื่อการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง

ในด้านของแหล่งเงินทุน ช่วงที่ผ่านมา SSP ได้มีการระดมทุนผ่าน SSP-W1-W2 การขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) รวมถึงการจ่ายหุ้นปันผล ส่งผลให้บริษัทฯ มีฐานเงินทุนที่เพียงพอ และมีความสามารถในการกู้ยืมเงินได้มากขึ้น อีกทั้งผู้บริหารเผยอาจมีแผนขายโครงการในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยให้ SSP สามารถรับรู้กำไรเข้ามาได้ทันที และเป็นส่วนช่วยในด้านของการจัดหาแหล่งเงินทุน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงของการศึกษา Deal ซึ่งหากได้ผลตอบแทนที่ดีเพียงพอ และมีข้อสรุปที่ชัดเจนจะมีการเปิดเผยในรายละเอียดอีกครั้ง

สำหรับโครงการเดิมที่มีอยู่ในแผนปัจจุบันความคืบหน้ายังคงเป็นไปตาม timeline ที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในธุรกิจใหม่ๆ โดยจะใช้เป็นธุรกิจ New S-curve เพื่อต่อยอดการเติบโตของกำไรในระยะยาว ซึ่งคาดจะมีการเปิดเผยรายละเอียดในเร็วๆ นี้

งวด 1Q65 ทั้งกำไรสุทธิและกำไรปกติเติบโตขึ้นทำ New high ใหม่รายไตรมาส

SSP รายงานกำไรสุทธิงวด 1Q65 เพิ่มขึ้น 105.1%qoq มาอยู่ที่ 294.8 ล้านบาท ขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสเป็นประวัติการณ์ หนุนหลักจากกำไรจากการดำเนินงานปกติที่เพิ่มขึ้น 70.7%qoq มาอยู่ที่ 295.9 ล้านบาท โดยรายได้จากการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.4%qoq มาอยู่ที่ 855.0 ล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากกลุ่มโรงไฟฟ้า Solar ในประเทศไทยและญี่ปุ่นที่มีผลประกอบการดีขึ้นตามการเริ่มเข้าสู่ช่วง High season ใน 1Q65 รวมถึงรับรู้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Wind 1 กำลังการผลิต 38.4 MWe (COD 27 ต.ค.64) เข้ามาเต็มไตรมาสในครั้งแรก ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 58.9%จาก 52.6% ในงวดก่อนหน้า โดยกำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 31.4%qoq มาอยู่ที่ 503.7 ล้านบาท อีกทั้งค่าใช้จ่าย SG&A ปรับตัวลดลง 33.6%qoq มาอยู่ที่ 61.1 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายพนักงานที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับปกติ

อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายทางการเงินปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.9%qoq มาอยู่ที่ 123.6 ล้านบาท ตามการรับรู้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากการรับรู้การออกหุ้นกู้

ทั้งนี้ในส่วนของรายการพิเศษ unrealized FX มีการบันทึกเป็นผลขาดทุนลดลง 96.3%qoq มาอยู่ที่ 1.1 ล้านบาท ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นงวด 1Q65

โดยรวมแล้วกำไรปกติงวด 1Q65 คิดเป็น 24.4% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2565

คงประมาณการกำไรปี 2565…ทิศทางกําไร 2Q65 อ่อนตัวลงเล็กน้อย QoQ

ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 1.1 พันล้านบาท เติบโต 32.0%yoy หนุนหลักจากการรับรู้โครงการใหม่ๆ ที่ทยอย COD เข้ามาในปี 2564 กำลังการผลิตรวม 66.3 MWe ได้เต็มที่ทั้งปี

โดยในช่วงสั้นทิศทางกำไรปกติงวด 2Q65 คาดจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย QoQ กดดันหลักจากกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่คาดจะผลิตไฟฟ้าได้ลดลงตามกระแสลมที่อ่อนตัว QoQ ถึงแม้คาดว่ายังมีแรงหนุนช่วยชดเชยได้บ้างจากการเข้าสู่ช่วง High season ของกลุ่มโรงไฟฟ้า solar และการรับรู้โครงการร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม 13.5 MWe (เข้าซื้อกิจการ 2 มี.ค. 2565) ได้เต็มไตรมาสในครั้งแรก แต่คาดยังชดเชยไว้ไม่หมด

ESG

Environment: ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการทางธุรกิจ

Social: มุ่งมั่นในการพัฒนาส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมและชุมชนอันเป็นที่ที่กลุ่มบริษัทฯ ตั้งอยู่ ให้มีคุณภาพดีขึ้น พร้อมๆ กับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ

Governance: จัดทำนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยครอบคลุมเนื้อหาหลักการสำคัญ ตั้งแต่โครงสร้าง บทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ จนถึงหลักการในการบริหารงานของผู้บริหารอย่างโปร่งใส ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้

SSP แนะนํา : ซื้อ 

ราคาปัจจุบัน (บาท) 10.00

ราคาเป้าหมาย (บาท) 13.30

Upside (%) 33.00

Dividend Yield (%) 2.90

- Advertisement -