วันนี้แนะนำกลุ่มท่องเที่ยว (BAFS SPA)

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อปรับฐานลง 1.56% นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลกับภาวะเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจรายหนึ่ง (CB) รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรุดตัวสู่ระดับ 98.7 ในเดือน มิ.ย. ต่ำกว่านักวิเคราะห์ประเมินกันที่ 100 และต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 106.4 และนับเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 9 ปี ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับเพิ่มขึ้นอีก 2.5% หลังมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและเอมิเรตส์ไม่มีแนวโน้มจะเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากกำลังการผลิตทั้งสองประเทศใกล้เต็มศักยภาพแล้ว ปัจจัยดังกล่าว สะท้อนภาวะอุปทานที่ยังตึงตัว แต่เป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ขณะที่เมื่อวาน จีนได้ประกาศว่าเตรียมจะลดระยะเวลากักตัวนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศลงเหลือ 7 วัน จากเดิม 14 วันและกักตัวที่บ้านต่ออีก 3 วัน จากเดิมที่กระบวนการดังกล่าวจะต้องใช้ ระยะเวลาทั้งหมดรวมกัน 14 ถึง 21 วัน ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นบวกตรงกับกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA)

Market Outlook

วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งในกรอบ 1587 – 1600 น่าจะพักฐานบ้างหลังจากปรับขึ้นมาโดดเด่น 1.6% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ประกอบกับจิตวิทยาการลงทุนที่ค่อนข้างเป็นลบ จาก Nikkei ที่แกว่งแดนลบ 0.9% และ Dow Jones แกว่งลบเมื่อคืน 1.56% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะไม่ปรับลงรุนแรงจนเกินไป เนื่องจากเชื่อว่าจะได้แรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติ หลังซื้อสุทธิติดต่อกัน 2 วันทำการ และมีแนวโน้มจะกลับมาซื้อต่อเนื่อง เพราะค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า (เช้านี้อยู่ที่ 35.16 บาท / ดอลลาร์สหรัฐ) แข็งค่าต่อเนื่องจากเมื่อวานปิดตลาดไปที่ 35.17 บาท / ดอลลาร์สหรัฐ ทิศทางค่าเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าผลจาก (1) มีแนวโน้มที่ กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยทดสอบระดับ 1% หรือคิดเป็นการขึ้นดอกเบี้ย 0.5% สะท้อนผ่านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 1 ปีที่วิ่งขึ้นมาทดสอบ 1% (2) ตลาดรับรู้การขึ้นดอกเบี้ยของ FED ไปพอสมควรแล้ว (3) นักท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังคาดจะฟื้นตัวต่อเนื่อง และการส่งสัญญาณจากจีนต่อการผ่อนคลายจะยิ่งสร้างความคาดหวังให้ตลาดว่าจีนมีแนวโน้มจะผ่อนคลายกฎเกณฑ์มากขึ้น เชิงกลยุทธ์การลงทุน แนะหุ้นได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่ราคายังปรับขึ้นไม่เยอะ อาทิ (BAFS BJC CPALL SPA) รวมถึงสื่อสาร (ADVANC) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) น้ำมัน (PTTEP)

Pi Stock Picks

BAFS (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 35.00 บาท)

คาดธุรกิจเติมน้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2022 (52% ของรายได้รวมปี 2021) จะมีผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัว จากจุดต่ำใน 2 ปีที่ผ่านมา เพราะคาดว่าจำนวนเครื่องบินที่จะมาเติมน้ำมันเชื้อเพลิงกับบริษัท ( 40%YoY ในปี (2021) หลังผ่านการล็อกดาวน์มาจะฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับราว 50% ต่อช่วงก่อนเกิด COVID

SPA (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท)

ประเมินผลประกอบการทั้งปี 2022 จะยังขาดทุนสุทธิที่ 109 ล้านบาท ก่อนที่จะพลิกเป็นกำไรที่ใกล้เคียงระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้ในปี 2023 ที่ 276 ล้านบาท หนุนจากการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้นของภาคการท่องเที่ยวและการขยายสาขาใหม่

 

- Advertisement -