Daily Focus: Domestic//Reopening Play
2023SET Target: 1760
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่ง ปิดบวก 16.36 จุด นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ Reopening Play หนุนจากข่าวจีนเตรียมยกเลิกมาตรการกักตัวขาเข้าวันที่ 8 ม.ค. ปริมาณการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 5.3 หมื่นลบ. นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิถึง 4.46 พันลบ. ทั้งที่เป็นเทศกาลหยุดยาว (และ Long Index Futures สูงถึง 4.58 หมื่นสัญญา) ส่วนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเล็กน้อย 694 พัน ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index กลับมาแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,630-1,645 จุด หลังจากปรับขึ้นแรงวานนี้ จากประเด็นจีนที่ยกเลิกมาตรการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ เช้านี้ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับไม่สดใสนัก มีความกังวลว่าการเปิดประเทศของจีนจะเร่งให้เงินเฟ้อขยับสูงขึ้น ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐวานนี้ขยับขึ้น เงินดอลลาร์แข็งค่า ตลาดกลับมากังวลอัตราดอกเบี้ยที่อาจเร่งขึ้นอีกครั้ง ตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปีจะถูกชี้นำจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง แต่ภาพระยะ กลาง–ยาว เรายังคงคาดหุ้นกลุ่ม Domestic & Reopening Play จะยังสดใสต่อเนื่อง
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic/Reopening Play ตามเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว//ยังถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมหุ้นเพิ่มไปแล้วช่วงปรับฐาน
หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BBL, BDMS, CRC, M, MAJOR
หุ้นเด่นวันนี้ : PRM
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.90 บาท
- คาดกำไร 4Q22 ยังเติบโตแข็งแรง หนุนจากการ Reopening หนุนความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัว และเป็นบวกต่อปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้น ทั้ง Domestic และ International เราคาดกําไรปี 2022 +55% Y-Y
- แนวโน้มปี 2023 คาดยังคงสดใสต่อเนื่อง หนุนจากการับรู้รายได้จากเรือ VLCC ใหม่ 3 ลำเต็มปี เราคาดกำไรโตต่ออีก +12% Y-Y ราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรด PER ต่ำเพียง 11.3 เท่า
- แนวรับ 7-6.90 บาท แนวต้าน 7.50-7.55//8 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกกลับมาไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$398 ล้าน กระจุกตัวใน 3 ประเทศๆ ละใกล้เคียงกัน ได้แก่ เกาหลีใต้ US$130 ล้าน ไต้หวัน US$126 ล้าน และไทย US$129 ล้าน ส่วนเวียดนามไหลเข้าเล็กน้อย US$33 ล้าน และไหลออกจากอินโดนีเซีย แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะไหลเข้าจากจีนที่ยกเลิกการกักตัว
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ส่งออกไทยเดือน พ.ย. 22 หดตัวมากกว่าคาด -6% Y-Y (ตลาดคาด +5.65% Y-Y) กลุ่มสินค้าที่ยังโตดีคือรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไก่ เครื่องดื่ม เป็นต้น ส่วนสินค้าที่หดตัวแรง คือ ยางพารา สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เหล็ก ตลาดหลักหดตัวแรงเกือบทุกตลาดทั้งจีน ญี่ปุ่น อาเซียน ส่วนสหรัฐฯและยุโรปโตได้เล็กน้อย ฝั่งการนำเข้า +5.6% สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวเล็กน้อย โดยหลักๆ ยังเป็นการนำเข้าเชื้อเพลิงที่เร่งตัว ขณะที่สินค้าทุนและวัตถุดิบค่อนไปในทางทรงตัว ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคหดตัว ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นเป็น US$1.3 พันลบ. แนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไปคาดยังเห็นการชะลอตัวต่อเนื่องจากทั้งฐานที่สูงปีก่อน ค่าเงินบาทแข็ง และผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอ การลงทุนในกลุ่มส่งออกจึงต้อง Selective เฉพาะกลุ่มสินค้าที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ Domestic/Reopening Play ที่ยังได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยว และยังคงเน้นหุ้นที่ฟื้นตัว
(0) SYNEX คาดกำไรสุทธิ 4Q22 +1% Q-Q, -19% Y-Y โดยมีผลกระทบจาก iPhone 14 รุ่น Pro series ที่ขาดตลาด ด้าน Margin ส่วนแบ่งกำไรของ NCAP และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจาก 4Q21 แต่หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติ 4Q22 คาด +5% Q-Q, +2% Y-Y โดยทั้งปี 2022 คาดกำไรปกติ Flat Y-Y แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2023 คาดยังเป็นปีที่ดีของสินค้า IT จากปัญหา Chip และสินค้า iPhone ขาดแคลนที่บรรเทาลง ขณะที่ตลาด Gaming และสินค้าเกี่ยวเนื่องกับ Digital Transformation และ Cyber Security คาดว่ายังแข็งแรง เราคาดกำไรปี 2023 +14% Y-Y เราประเมินเราราคาเป้าหมายที่ 20 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
(0) หุ้นเข้าออก SET50/SET100 งวด 1H23 สำหรับ SET50 หุ้นเข้า CENTEL COM7 DELTA RATCH หุ้นออก BLA IRPC KCE SAWAD ส่วน SET100 หุ้นเข้า AAV BYD DELTA JAS NEX SABUY THG หุ้นออก AEONTS MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA
(0) ตลาดดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 37.63 จุด หรือ +0.11% ปิดที่ 33,241.56 จุด จากจีนประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาดทั้งขาเข้าและขาออก
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากที่จีนประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาด
(-) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลง โดยนักลงทุนมองประเด็นความกังวลเรื่องภาวะ เศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 34.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดลดลงเล็กน้อย 3 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 79.53 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังโรงกลั่นสหรัฐเริ่มกลับมาดำเนินงาน ในขณะที่ เช้านี้รีบาวน์เป็น 79.75 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.28%
(+) ราคาทองคำ COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 18.9 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ปิดที่ 1,823.1 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากจีนประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาด ในขณะที่เช้านี้ปรับลงเป็น 1,820.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ -0.14%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 918.51 / +5.50
