บล.บัวหลวง: 

PTTEP – ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์

What’s new?

ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยืนยันมุมมองเชิงบวกของเราต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของบริษัท

Highlights:

  • ผลการดำเนินงาน 1Q24 มีแนวโน้มจะอ่อนตัวลง YoY (ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยลดลง, ต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้น) และ QoQ (ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยลดลง)
  • สำหรับโครงการ G1 (เอราวัณ) บริษัทคาดว่าปริมาณการผลิตก๊าซจะเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในเดือน ม.ค. นี้ (จาก 377 ล้านลูกบาศก์ฟุต/ วันในเดือน ธ.ค. 2023) และจะเพิ่มเป็น 550 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในเดือน มี.ค. และ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันตามสัญญา PSC ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2024 ทั้งนี้ PTTEP ได้เพิ่มการผลิตก๊าซจากโครงการ G2 (บงกช) เป็น 800-840 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน (เทียบกับ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันตามสัญญา) และจากโครงการอาทิตย์เป็น 320-340 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน (เทียบกับ 294 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันตามสัญญา) เพื่อชดเชยปริมาณก๊าซจากโครงการ G1 ที่ขาดไปได้เกือบทั้งหมด
  • สำหรับความคืบหน้าของโครงการ LNG ในโมซัมบิค ปัจจุบัน TOTAL (ผู้ถือหุ้นหลัก) เตรียมที่จะกลับเข้าพื้นที่ในช่วงต้นปี 2024 (คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ใน 1H28) ในขณะที่โครงการ SK410B Lang Lebah ในมาเลเซีย คาดว่าจะ ตัดสินใจลงทุน (FID) ได้ในปีนี้ (คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ใน 1H28)
  • PTTEP ยังคงมองหาโอกาสในการทำ M&A ของธุรกิจ E&P โดยมุ่งเน้นพื้นที่ SEA และตะวันออกกลาง ซึ่งบริษัทมีความชำนาญและดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว รวมทั้งโครงการ Renewable Energy (เน้น Offshore Wind Farm)
  • สำหรับการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ Carbon Capture and Storage (CCS) ที่แหล่งอาทิตย์ (คาดว่าจะ FID ในปีนี้) และโครงการ Green Hydrogen ที่ประเทศโอมาน (คาดว่าจะ FID ในปี 2027; เริ่มผลิตในปี 2030) นอกจากนั้นบริษัทจะขยายธุรกิจ Al & Robotics อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งศึกษาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจ CCS as-a-service (carbon credit), และธุรกิจ future energy อื่นๆเพิ่มเติม

View From Fundamental:

อุปทานที่จำกัดน่าจะหนุนราคาน้ำมันและกำไรหลักใน 1Q24 ของ PTTEP ให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง มูลค่าหุ้นปัจจุบันยังคงน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2024 ที่ 1.1 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 2 เท่าอยู่ 0.9 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีในปี 2024 ที่ 5.3% (เทียบกับ 3.2% ของ SET) เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ราคาเป้าหมาย 212 บาท)

- Advertisement -