KS Daily View 05.09.2024 >>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาทั้งดีและไม่ดี ตลาดรอ Nonfarm payrolls เป็นตัวยืนยันอีกครั้ง ด้านตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเกือบ 40 จุด ปิดเหนือ 1,400 จุด มองวันนี้มีแรงส่งต่อโดยปรับกรอบเป็น 1,390 – 1,430 แนะนำ SYNEX, CPN
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงผันผวนและปิดผสมผสาน Dow Jones -0.54%, S&P500 -0.30%, Nasdaq Composite +0.25% และ Russell 2000 -0.61% จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมามีทั้งดีและแย่กว่าคาด โดยการจ้างงาน ADP เพิ่มขึ้นเพียง 99,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่ง ในขณะที่ Initial Jobless Claims ลดลง 5,000 ตำแหน่งเหลือ 227,000 ตำแหน่งและ ISM Services 51.5 มากกว่าคาดเล็กน้อย ตลาดจึงรอการยืนยันจาก Nonfarm payroll ในค่ำวันนี้อีกที
SET Index ปิดที่ 1,404.28 จุด (+2.84%) ตลาดได้ปัจจัยบวกอย่างต่อเนื่องจากภายในประเทศ ได้แก่ การแต่งตั้งครม.ชุดใหม่ การเร่งรัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การออกกองทุนวายุภักษ์ การแข็งค่าของค่าเงินบาทช่วยหนุน Fund Inflow และได้ภาพตลาดต่างประเทศที่เมื่อวานนี้ค่อนข้างเป็นใจ จึงทำให้ SET ปรับตัวขึ้นแรงราว 40 จุด ปิดเหนือ 1,400 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนโดยที่ SET50 ได้ขึ้นทำระดับสูงสุดในปีนี้ โดยกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ได้แก่ Packaging, ICT และ Petrochemical วันนี้คาด SET น่าจะมีแรงส่งต่อโดยมองกรอบใหม่ที่ระดับ 1,390 – 1,430 ซึ่งกรอบบนตรงกับระดับของดัชนี ณ วันทำการแรกของปีนี้ แนะนำ SYNEX จากประเด็นการเปลี่ยนผ่านอุปกรณ์รวมถึงรายได้ของ Foxconn ที่ขยายตัวแรงในเดือนสิงหาคม อีกตัวเลือกหุ้นใหญ่อย่าง CPN ที่ยังค่อนข้าง Laggard และน่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- กระทรวงพาณิชย์รายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนสิงหาคม 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.35 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากราคาผักและผลไม้สดที่ปรับตัวสูงขึ้นจากฝนตกหนักและน้ำท่วม ขณะที่ราคาพลังงาน เช่น แก๊สโซฮอล์และค่าไฟฟ้าลดลง ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อลดลง อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.62 เมื่อเทียบกับปีก่อน กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อปี 2567 จะอยู่ระหว่าง 0.0% ถึง 1.0%
- แม้สหรัฐฯ จะรายงานการจ้างงานโดย ADP ที่ 99,000 ตำแหน่งต่ำกว่าคาดที่ 145,000 ตำแหน่ง แต่ Initial Jobless Claims ลดลง 5,000 ตำแหน่งเหลือ 227,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดที่ 230,000 ตำแหน่ง รวมถึง ISM Services PMI ออกมาที่ 51.5 มากกว่าคาดที่ 51.1 และเพิ่มขึ้นจาก 51.4 ในเดือนที่แล้ว ซึ่งผลสุดท้ายทำให้ค่าเงินดอลลารและ 10Y US Bond Yield ปรับตัวขึ้น
- OPEC+ ตัดสินใจเลื่อนการเพิ่มการผลิตน้ำมัน 180,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคม 2024 หลังจากราคาน้ำมันลดลงเนื่องจากความต้องการที่อ่อนแอจากจีนและสหรัฐฯ รวมถึงปริมาณน้ำมันที่มีมากเกินไป การหยุดนี้ช่วยป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่า 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยซาอุดิอาระเบียและรัสเซียเป็นผู้นำการตัดสินใจเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด
- ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่ากระทรวงการคลังจะเปิดให้ประชาชนรายย่อยจองซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU1) ระหว่างวันที่ 16-20 ก.ย. 2567 ขณะที่นักลงทุนสถาบันสามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย. โดยการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะเริ่มไม่เกินวันที่ 10 ต.ค. นักลงทุนจะทราบผลการจัดสรรหน่วยลงทุนในวันที่ 23 ก.ย.
- Hon Hai Precision หรือ Foxconn รายงานรายได้เดือนสิงหาคมปีนี้ที่ NT$548.3 พันล้าน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของยอดขายในเดือนสิงหาคม เติบโตขึ้น 33% YoY และขยายตัวจากเดือนที่แล้วที่เติบโต 22% YoY แรงหนุนมาจากความต้องการที่สูงขึ้นของ AI Server, Smartphone ที่กำลังฟื้นตัวจาก iPhone 16 ที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 9 กันยายน 2567 นี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายสมาร์ทโฟนในอนาคต รวมถึงยอดขายในกลุ่มคอมพิวเตอร์ที่ได้รับประโยชน์จากความต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มี AI
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- SYNEX: ราคาพื้นฐาน 16.56 บาท
Foxconn ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลักของ Apple รายงานรายได้เพิ่มขึ้น 33% YoY ในเดือนสิงหาคม ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดสำหรับยอดขายในเดือนนี้ แสดงถึงความต้องการสมาร์ทโฟนและเซิร์ฟเวอร์ AI ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณบวกสำหรับ SYNEX ที่ได้รับประโยชน์จากการจำหน่ายสินค้าไอที โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ในเดือนกันยายนที่คาดว่าจะช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงสินค้าในตลาดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การยุติการสนับสนุน Windows 10 ในเดือนตุลาคม 2568 จะเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นการอัปเกรดระบบปฏิบัติการในกลุ่มคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป ล้วนส่งผลดีต่อ SYNEX เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นที่จะเห็น Upside Risk ของรายได้และกำไร แนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2568 ที่ 16.56 บาท ทั้งนี้เรายังไม่ได้รวมผลของการใช้จ่ายด้าน IT ของภาครัฐและธุรกิจโซลูชันองค์กรใหม่ไว้ในประมาณการกำไรปี 2568
- CPN: ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท
จากผลประกอบการที่ค่อนข้างดีใน 2Q67 ที่กำไรสุทธิเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากทุกกลุ่มธุรกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ที่ได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการและการเปิดศูนย์การค้าใหม่ ธุรกิจที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงธุรกิจโรงแรม แม้จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยตามฤดูกาล แต่บริษัทก็ยังคงควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ แนวโน้มในอนาคตของ CPN ยังคงสดใส โดยมีโครงการใหม่ขนาดใหญ่ที่อยู่ในแผนพัฒนา เช่น โครงการ Central Park ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่จะเป็นแหล่งสร้างรายได้สำคัญในอนาคต รวมถึงการปรับปรุงโครงการเดิมอย่าง Central Pinklao และ Central Chiang Mai Airport ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทในระยะยาว ราคาหุ้นของ CPN ในปัจจุบันยังค่อนข้าง Laggard และคาดว่าจะเป็นที่น่าจับตาของกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นความสนใจจากนักลงทุน ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ จึงแนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมายที่ 78 บาท
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันศุกร์ ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ภาคจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.65 แสนตำแหน่งเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.14 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.2% ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.3%