ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน รอผลประชุมเฟด

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ยังคงแกว่งตัวลง … หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แรงขายจากฝั่งสถาบันภายในประเทศ ผนวกกับความกังวลต่อการปรับนโยบายการเงินของ ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงกดดันหุ้นที่ปรับขึ้นมามากๆ และหุ้นที่ระดับ valuations สูง … ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยต่อตลาดหุ้นยังคงเป็นลบเล็กน้อย i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ สะท้อนแรงขายปรับพอร์ตออกจากหุ้นกลุ่ม technology ก่อนหน้า ผลการประชุมเฟดในคืนวันที่ 26 ม.ค. นี้ ii) แรงกดดันจากประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ (geopolitical) เพิ่มขึ้นหลังจากสหรัฐฯประกาศถอนเจ้าหน้าที่ทางการทูตออกจากยูเครน เนื่องจากมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดความรุนแรงระหว่างยูเครนกับรัสเซีย iii) นักลงทุนยังคงกังวลว่าผลประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ จะส่งสัญญาณการลดงบดุล (balance sheet reduction) เร็วกว่าที่ consensus คาดกัน ในขณะนี้ว่าจะเริ่มลดงบดุลในเดือน ก.ค. 2565 … ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น เรามองว่าจิตวิทยาของตลาดหุ้นเอเชียและหุ้นไทยจะยังเป็นลบเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ และดัชนีฯ น่าจะยังแกว่งตัวลง … ด้านปัจจัยภายในประเทศเช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยังคงทรงๆ ตัวอยู่ที่ 7,139 ราย เสียชีวิต 13 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 8,100 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร PSH*, SHR, IP

  • PSH* (เป้าพื้นฐาน 16 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.0 บาท / แนวต้าน 14.5 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 15.1 บาท (Stop loss 13.7 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินข้อมูลอุปสงค์-อุปทานบ้านเริ่มกลับสู่สมดุลมากขึ้น (AREA รายงานข้อมูลอสังหาฯ ปี 2564 อุปทานลดลง -17% YoY / อุปสงค์เพิ่มขึ้น +15% YoY) ขณะที่ AREA คาดอุปสงค์บ้านใหม่ปีนี้จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 15-20% YoY (มากกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯ คาดไว้ที่ +10% YoY) ทำให้คาดว่าการแข่งขันด้านราคาจะเริ่มลดลงในปีนี้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์กลุ่มอสังหาฯ วันนี้เพิ่มเติม 3) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรปี 2565 ของ PSH จะเริ่มพลิกกลับมาเติบโต +39% YoY (กลับมาโต YoY ครั้งแรกในรอบ 3 ปี) ขณะที่ PBV ยังต่ำเพียง 0.73 เท่า (ค่าเฉลี่ย PBV ในอดีตเท่ากับ 1.2 เท่า)
  • SHR (เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.36 บาท / แนวต้าน 3.5-3.6 บาท (Stop loss 3.3 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q64 จะฟื้นตัวขึ้น YoY, QoQ โดยคาดจะยังขาดทุนราว 210 ล้านบาท (ขาดทุนลดลง) ขณะที่อัตรารายได้ต่อห้องว่าง (RevPar) ใน 4Q64 คาดจะปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาสเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมที่ดี 3) Sentiment บวกจากมติที่ประชุมศบค. ล่าสุดกลับมาเปิดระบบ Test & Go อีกครั้ง เริ่ม 1 ก.พ. นี้ ขณะที่ผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง 4) Valuation ไม่แพง PBV 0.76 เท่า ขณะที่คาดปี 2565 จะเริ่ม Turnaround พลิกกลับมากำไรได้หลังขาดทุน 3 ปีติดต่อกัน
  • IP (เป้า Consensus 26 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.8 บาท / แนวต้าน 21.5 บาท หาก Breakout ผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 22.0 บาท (Trailing stop 20.0 บาท) 2) Consensus คาดกำไรปี 2565 โต + 82% YoY และทำให้ Forward PE ลดลงเหลือ 39 เท่า (จาก 72 เท่าบนประมาณการกำไรปี 2564) ซึ่งเราประเมินว่าประมาณการฯ ปี 2565 มี Upside จาก i) การเปิดตัวสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกัญชง (คาดเปิดตัวภายใน 2H65) … คาดรับ Sentiment บวกจากประเด็นการเตรียมปลดล็อกกัญชง-กัญชาจากยาเสพติด ii) ธุรกิจร้านขายยาออนไลน์ (ร่วมทุนกับ OTO คาดได้รูปแบบชัดเจนภายใน 1H65) ที่คาดว่า Consensus ยังไม่ได้รวมในประมาณการฯ

หุ้นมีข่าว

(+) เอฟเฟ็กต์สั่งรีดเงินปตท. โผหุ้นลุ้นปันผลกระหน่ำ (ทันหุ้น) ระวังแทรกแซงปตท. หากกระทบผู้ถือหุ้นแรงจะส่งผลความเชื่อมั่น แต่การสั่งรีดเงินเข้ารัฐมากขึ้น ส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้น กลุ่มปตท. ครบเชื่อลูกๆ ทั้ง PTTEP*, PTTGC*, OR*, GPSC*, TOP*, IRCP* ต้องปันผลกระหน่ำให้แม่ จับตา TIPH จัดหนักให้ปตท. ด้วย เปิดชัดๆ กระทรวงการคลังถือหุ้นไหนบ้าง

(+) EA* บุกรายได้ธุรกิจ EV เต็มสูบปีนี้ รุกหนักยานยนต์เรือโดยสารไฟฟ้า โรงแบตฯ (ข่าวหุ้น) “พลังงานบริสุทธิ์” หรือ EA* ลั่นปีนี้เป็นปีเก็บเกี่ยวการลงทุน โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า เรือโดยสารไฟฟ้า และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ กำลังการผลิตเริ่มต้น 1 กะวัตต์ชั่วโมงต่อปี จะรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้มากขึ้น ขณะที่ธุรกิจไฟฟ้ายังรับรู้รายได้ตามปกติจากกำลังการผลิต 664 เมกะวัตต์

(+) MINT* ฐานะการเงินแกร่ง ลุ้นอีบิทด้าปีนี้โตกว่าปี 64 (ข่าวหุ้น) MINT* โชว์สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง ลดต้นทุนรักษาอัตราการทำกำไรคาดปี 65 อีบิทด้าดีกว่าปี 64 พร้อมคาดฟื้นมาตรการ Test & Go ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทยช่วงไฮซีซั่น ก.พ.-มี.ค. หนุนอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นหลังกลับมาเปิดให้บริการกว่า 90% อัตราเข้าพักโรงแรมในยุโรป ต.ค. 64 แตะ 60% ส่วนในไทย ธ.ค. 64 ขึ้นไป 35-36%

(+) SVT ร่วมมือ SUN เปิดตัวแฟรนไชส์ตู้สินค้าอัตโนมัติ (ทันหุ้น) SVT จับมือพันธมิตรใหม่โดยแต่งตั้ง “SUN” ลุยธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติภายใต้แบรนด์ “SUNVENDING” นำร่องพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่คาดปี 2565 ติดตั้งได้ 500

(-PTTEP*) Total Energies และ Chevron Corp จะถอนตัวจากโครงการ Yadana ในประเทศพม่า (Reuters) ความคิดเห็น: โครงการผลิตก๊าซธรรมชาติ Yadana และ MGTC ประกอบด้วยผู้ร่วมทุน ได้แก่ Total  Energies ถือสัดส่วน 31.2%, Chevron 28.3%, PTTEP 25.5%, and Myanma Oil and Gas Enterprise (MOGE) 15%. Total Energies ถึงแม้ว่าในกรณีของการถอนตัวจะถูกแบ่งปันระหว่างพันธมิตรปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงระบุว่าผลประโยชน์ของเรามีมุมมองเชิงลบต่อสถานการณ์นี้ เนื่องจากสหรัฐฯและสหภาพยุโรปอาจคว่ำบาตรเมียนมาร์ในอนาคต การผลิตของ PTTEP จากประเทศพม่าอยู่ที่ประมาณ 40KBOED คิดเป็น 8.6% ของปริมาณการขายที่คาดการณ์ไว้ทั้งหมดในปี 2565 ทั้งนี้เรายังคง “ซื้อ” สำหรับ PTTEP โดยมีราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 145.00 บาท

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop: OTO (Trailing stop 17.1 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) แนวรับ 129.5 บาท / แนวต้าน 134 135 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 127.5 บาท)
  • CHAYO (เป้า Consensus 15.84 บาท) แนวรับ 12.5 บาท / แนวต้าน 13.2-13.8 บาท (Stop loss 12.4 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 19.5 บาท / แนวต้าน 20.0-20.5 บาท (Stop loss 19.0 บาท)
  • UBE (เป้าพื้นฐาน 3.2 บาท) แนวรับ 2.28 บาท / แนวต้าน 2.36-2.42 บาท (Stop loss 2.28 บาท)
  • AEONTS* (เป้าพื้นฐาน 240 บาท) แนวรับ 182 บาท / แนวต้าน 188-190 บาท (Stop loss 181.5 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • PLANB* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 9.6 บาท ฝ่ายวิจัยฯ กำไร 4Q64 = 111 ล้านบาท (Turnaround QoQ, แต่ลดลง -21% YoY) อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯ ปี 2564-65 ลง -73% และ -9% ตามลำดับ เพื่อปรับปรุงข้อมูลสมมติฐานต่างๆใหม่ แต่เนื่องจากแนวโน้มผลการดำเนินงานคาดจะฟื้นตัวเด่นได้ต่อเนื่องในปีนี้ จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” และปรับเป้าหมาย Forward PE ขึ้นเป็น 45.5 เท่า (+1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) จากเดิม 37.2 เท่า (-0.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 9.6 บาท (จากเดิม 8.55 บาท)
  • กลุ่มอสังหาฯ น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” จากข้อมูลงานสัมนา AREA อุปทานบ้านใหม่ในปี 2564 ลดลง -17% YoY ขณะที่อุปสงค์เพิ่มขึ้น +15% YoY ยืนยันมุมมองของฝ่ายวิจัยว่าอุตสาหกรรมอสังหาฯ ไทยกำลังเข้าสู่ช่วงการฟื้นตัว ทั้งนี้สำหรับปี 2565 AREA คาดอุปสงค์จะเพิ่มขึ้น +15-20% YoY (มากกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯ คาดไว้ที่ +10% YoY) หุ้นเด่น ORI*, SPALI*, AP*, PSH*

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -