ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index พุ่งแรง 17 จุด ปิดที่ระดับ 1,626 จุด Fund Flow ไหลเข้าหนุนหุ้น Big Cap บวกแรงนำโดย PTTEP SCC DELTA และ GULF

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET ปรับตัวขึ้น 1,630 – 1,635 จุดก่อนสลับอ่อนตัว แม้ Fund flow ต่างชาติจะยังหนุนตลาดในช่วงนี้ รวมถึงกระแสข่าวจีนคลายล็อคดาวน์ อย่างไรก็ตามตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่งจะหนุนให้ FED ขึ้นดอกเบี้ยต่อไป อีกทั้งแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุม FED จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • หุ้นที่คาด 3Q22 เติบโต BDMS BH CPF TU GFPT BANPU EPG BEM BTS WHA
  • AOT CENTEL ERW BA AAV SPA SISB AU CPN CRC CPALL อานิสงส์การเปิดประเทศและคาดงบ 3Q22 เติบโต
  • KBANK BBL SCB KTB TTB อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้

  • PLANB (ปิด 7.25 ซื้อ/เป้า 8.50) ธุรกิจสื่อ OOH กำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้นงบที่ชะลอตัวใน 3Q22 เป็นโอกาสในการเข้าซื้อคาดหวังกำไรฟื้นตัวใน 4Q22 และกลับมาทำ All Time high ในปีหน้า
  • EKH (ปิด 8.05 ซื้อ/เป้า 9.20) EKH จะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศของไทยและจีนรายได้ non-Covid และ IVF จากลูกค้าจีนจะกลับสู่ระดับก่อนโควิดเบื้องต้นคาดกำไรจะโต 9% และ 18% ในปี 2023 และ 2024

บทวิเคราะห์วันนี้: BGRIM, GPSC, Thailand Strategy

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) น้ำมันดิบบวกต่อ สต๊อกน้ำมันลด คาดหวังจีนเปิดประเทศ: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.84$ (+2.1%) ปิดที่ระดับ 88.37$/bbl หลังจากสถาบันปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 6.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 แสนบาร์เรล และยังได้แรงหนุนจากกระแสคาดหวังจีนเปิดประเทศ

(-) FED Meeting – Key focus อยู่ที่ถ้อยแถลงของ ปธ.เฟด: นักลงทุนมองข้ามการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ไปแล้ว และให้ความสำคัญต่อการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. และปีหน้ามากกว่า ดังนั้น Key focus จึงอยู่ที่ถ้อยแถลงของ ปธ.เฟด ว่าจะส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. และปีหน้าอย่างไรหากโทนยังเป็น Aggressive จะสร้างความผิดหวังให้กับตลาดกดดัชนีร่วงแรง

(+/-) วันศุกร์การจ้างงานของสหรัฐอาจเปลี่ยนท่าทีของตลาด: โดยเฉพาะหากการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) ของสหรัฐเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2-2.4 แสนตำแหน่ง  และมีอัตราการว่างงานลดลงต่ำกว่าระดับ 3.5% จะทำให้โอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% อีกครั้ง ปัจจัยนี้จะสร้างความกังวลให้นักลงทุนและเป็นปัจจัยลบกดดันตลาดในสัปดาห์ถัดไป

- Advertisement -