บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

TRUE Corp (TRUE TB)

งบ 4Q65 อ่อนแอ มองบริษัทใหม่แกร่งขึ้นในปี 2566

D/G เป็น “ถือ” รอ ผบห. เผยเป้า synergy

เราคาดการณ์ผลขาดทุนสุทธิหลักจะเพิ่มขึ้นจาก 2.6 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/65 เป็น 3.1 พันล้านบาทในไตรมาส 4/65 เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น (คาดประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ช่วงปลายเดือนก.พ.) หลังควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 3 มี.ค. เราคาดว่าผลขาดทุนสุทธิของบริษัทใหม่จะลดลง YoY เหลือ 403 ล้านบาทในปี 66 จากการเติบโตของรายได้ 3.2% และค่าใช้จ่ายบางรายการที่ลดลง หากไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง 4.1 พันล้านบาท กำไรหลักของบริษัทใหม่คาดจะอยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท ในปี 66 ราคาเป้าหมายใหม่ของเราที่ 5.32 บาท สะท้อนผลตอบแทนรวม 10% ส่งผลให้เราลดคำแนะนำ TRUE จาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”

คาดขาดทุนหลักไตรมาส 4/65 เพิ่มแตะ 3.1 พัน ลบ.

เราประเมินผลขาดทุนหลักสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 3.1 พัน ลบ. (เทียบกับขาดทุน 1.3 พันลบ. ไตรมาส 4/64 และ 2.6 พันลบ. ในไตรมาส 3/65) บนฐานรายได้ 2.64 หมื่น ลบ. (-0.4% YoY, +0.9% QoQ) ผลขาดทุนหลักไตรมาส 4/65 เพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากรายได้จากการให้บริการลดลง 0.4% และค่าใช้จ่าย D&A เพิ่มขึ้น 7.0% ขณะที่ผลขาดทุนไตรมาส 4/65 เพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น 4.2% (ไตรมาส 4 เป็นช่วง High Season สำหรับแคมเปญการตลาด) และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 300 ล้านบาท ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดฟุตบอลโลก ในช่วง พ.ย.-ธ.ค. 2565

ประเมินผลขาดทุนสุทธิปี 66 ลดลง YoY เหลือ 403 ลบ.

เราคาดว่าบริษัทใหม่จะขาดทุนสุทธิ 403 ล้านบาทในปี 66 ดีกว่าขาดทุนสุทธิ 5.7 พันลบ.ในปี 65 (คำนวณจากผลขาดทุนสุทธิ 8.3 พันลบ.ของ TRUE และกำไรสุทธิ 2.5 พันลบ. ของ DTAC) ปัจจัยขับเคลื่อนกำไรหลักคือ 1) การเติบโตของรายได้จากการให้บริการ 3.2% 2) ค่าใช้จ่าย D&A ลดลง 2.3 พันลบ. (จากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์เครือข่าย 7.59 หมื่น ลบ.) 3) ค่าที่ปรึกษาลดลง 822 ลบ.4) ค่าใช้จ่ายทางการตลาดลดลง 355 ลบ. และ 5) ค่าเช่าจ่ายให้กับ NT ลดลง 286 ลบ. (การเช่าโครงข่าย 850MHz)

ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” ราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 5.32 บาท

เราเพิ่มราคาเป้าหมายหลังการควบรวมกิจการจาก 5.0 บาท เป็น 5.32 บาท หลังจากปรับการคาดการณ์การทำงานร่วมกัน และปรับลด WACC จาก 7.6% เป็น 5.4% (อ้างอิงจาก CAPM ของ TRUE และ DTAC) เราใส่ประมาณการการ Synergy ที่ 9.2 พันลบ./8.0 พันลบ.เข้าไป ในปี 66/67 ในขณะที่ปรับลดค่า Synergy ปี 69-72 ลง 2-11% ราคาเป้าหมายของเรา (ซึ่งอ้างอิงจากมูลค่ายุติธรรมของใหม่ที่ 8.86 บาท/หุ้น) คิดเป็นผลตอบแทนรวม 10% (อัพไซด์ของราคาเป้าหมาย บวกกับอัตราผลตอบแทนเงินปันผล) อัพไซด์ต่อประมาณการของเรา ได้แก่ การสร้างมูลค่า synergy ได้สูงกว่าที่เราคาดไว้

- Advertisement -