สหรัฐบรรลุข้อตกลง เพิ่มเพดานหนี้

สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway ในแดนลบ จากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง และหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ นักลงทุนยังติดตามความคืบหน้าในการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐ รวมถึงตัวเลข PCE ของสหรัฐ เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,530.84 จุด -4.58 จุด -0.30% มูลค่าการซื้อขาย 38,787 ลบ. ต่างชาติ -3,567.16 ลบ. TFEX -12,038 สัญญา ตราสารหนี้ -521.09 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 328.69 จุด +1.00% หลังจากมีรายงานว่า ปธน.โจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์ แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 1%

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ +1.17% ปิดที่ 72.67 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 1.4% ในรอบสัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันปิโตรเลียมในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้เนื่องในวัน Memorial Day

+ เฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจําลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.9% ใน 2Q66 หลังจากขยายตัว 1.1% ใน 1Q65

+ สํานักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลรัฐบาลไทยว่า ไทยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศ 1 ล้านคน ในช่วงเดือนม.ค. – 18 พ.ค. หลังจากที่จีนเปิดพรมแดนอีกครั้ง

ปัจจัยลบ-

– ทางการยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียดำเนินการโจมตียูเครนตลอดทั้งคืนในหลายพื้นที่ ทั้งกรุงเคียฟ เมืองคนโปร และภูมิภาคทางตะวันออก โดยยูเครนสามารถยิงสกัดขีปนาวุธได้ 10 ลูก และโดรนอีกมากกว่า 20 ลำ

– รัสเซียขู่ไม่ต่ออายุข้อตกลงเปิดเส้นทางส่งออกที่ปลอดภัยจากท่าเรือ บริเวณทะเลดำของยูเครน ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 17 ก.ค. หากข้อเรียกร้องเพื่อปรับปรุงด้านการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยของรัสเซียไม่ได้รับการตอบสนอง

– รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีหนี้ครัวเรือนของไทยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่ 15.09 ล้านล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นหนี้ที่เพิ่มขึ้นมาช่วงหลังปี 62 เนี่องจากมีวิกฤติโควิด-19 โดยข้อมูลย้อนหลังพบว่า สถิติหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงเกิน 80% มาตั้งแต่ปี 56-57 หรือกว่า 10 ปีที่ผ่านมา

– ตลท. สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม-26 พฤษภาคม 2566 พบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 31,305,94 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 5,178.05 ล้านบาท นักลงทุน ต่างประเทศขายสุทธิ 89,144.24 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 63,016.34 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดโลก หลังได้แรงหนุนจากการบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ซึ่งช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,525-1,540 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • จํานวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น : AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW SPA
  • หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL COM7 CPALL
  • หุ้นเข้าคำนวณ MSCI Equity Indexes เข้า MAKRO ออก JMT, TU และ MSCI Small Cap Indexes เข้า JMT, TIDLOR, SAPPE, SISB TU ออก – มีผลวันที่ 31พ.ค.

หุ้นรายงานพิเศษ

BCH – “ซื้อ” Bloomberg Consensus 24.50 บาท Upside 18% “คาดผลประกอบการช่วงที่เหลือของปี 66 จะเติบโตดีขึ้นรายไตรมาส ตั้งแต่งวด 2Q66 เป็นต้นไป”

  • งวด 1Q66 มีกำไร 254 ลบ. -87%YoY -6%QoQ (ต่ำกว่าตลาดคาด 32%) โดยมีรายได้ 2,674 ลบ. -62%YoY -49%QoQ หดตัวเนื่องจากรายได้เกี่ยวกับการรักษาโรคโควิด-19 จากโครงการภาครัฐที่หายไปกว่า 3,404 ลบ. จากปีก่อน เช่นเดียวกับรายได้ผู้ป่วยทั่วไป (สัดส่วน 66%) หดตัว 39%YoY จากการลดลงของการให้บริการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา การให้บริการตรวจคัดกรองและผู้ป่วยโคริต-19 ที่ชำระเงินเองหรือเบิกจากประกัน อย่างไรก็ดี รายได้ผู้ป่วยประกันสังคม (สัดส่วน 34%) โตดีขึ้น 14% YoY จากจำนวนผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้น 8.3%YoY ขณะที่ EBITDA margin ลดลงสู่ 22.3% (1Q65 = 41.7%, 4Q65 = 23.2%) ตามทิศทางรายได้ที่หดตัวลง
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการช่วงที่เหลือของปี 66 คาดจะเติบโตดีขึ้นรายไตรมาส ตั้งแต่งวด 2Q66 เป็นต้นไป สนับสนุนจาก 1. การปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมจาก 1,640 บาท/คน เป็น 1,808 บาท/คน หรือราว 10% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.66 2) จำนวนผู้ป่วยโควิต-19 เริ่มปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่หลังช่วงสงกรานต์และโรงเรียนเปิดเทอม ทำให้มีคนไข้เฉลี่ย 170-200 คน/วัน เทียบกับไตรมาสแรกแทบไม่มีรายได้ในการรักษาผู้ป้วยโควิค-19 3) ขยายการให้บริการใหม่ๆ อาทิ นวัตกรรมลดน้ำหนัก และ MOU ส่งชาวจีนมารับบริการ IVF และ Anti- Aging เป็นต้น และ 4) ช่วง 2H66 จะเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ราว 1,683 ลบ. -45%YoY (หดตัวจากฐานสูงที่มีรายได้โควิด-19) และราคาเหมาะสม 21.10 บาท Upside 19% แนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) SSP (Bloomberg consensus 10.21 บาท) แย้มศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2566 สรุปได้อย่างน้อย 2 ดีล ขนาดกว่า 100 เมกะวัตต์ เตรียมงบ 3-4 พันล้านบาท รองรับการลงทุนในปีนี้ ด้านแนวโน้มไตรมาส 2/2566 คาดโตดีกว่าไตรมาสแรก หลังเข้าไฮซีซันแดดแรง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HFT (Bloomberg consensus 5.00 บาท) ลงทุนขยายไลน์ผลิตล้อรถมอเตอร์ไซค์ รับคำสั่งผลิตล้อรถมอร์เตอร์ไซค์ล็อตใหญ่ ควบบุกตลาดล้อรถจักรยานไฟฟ้าจีน อยู่ระหว่างขอ มอก. รัฐบาลจีน คาดส่งสินค้าล็อตแรก Q3/2566 ปลื้มยอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงหนุนกําไรทั้งปีโตดีกว่าคาด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WHA (Bloomberg consensus 4.89 บาท) เล็งปรับเป้ายอดขายที่ดิน-โลจิสติกส์ใหม่ หลังเปิดประเทศ ลูกค้าต่างชาติเรียงคิวเข้าเจรจาต่อเนื่อง คาดปิดครึ่งแรกปีนี้ยอดขายที่อาจพุ่งแตะ 1.3 พันไร่ จากเป้า 1.75 พันไร่ อวดยังมี LOI ลูกค้าในมืออีกกว่า 753 ไร่ ตุนแบ็กล็อกในมือแน่น 675 ไร่ ด้านโลจิสติกส์จบไตรมาส 2/2566 สัญญาเช่าระยะสั้นทะลุเป้า 1 แสนตารางเมตร (ที่มา ทันหุ้น)

(+) VGI (Bloomberg consensus 4.60 บาท) ผลงานประจำปี 2565/66 บุ๊กรายได้ 4,889 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.6%YoY จากการฟื้นตัวของสื่อโฆษณานอกบ้านและการเติบโตธุรกิจบริการด้านดิจิทัล ตั้งเป้าผลการดำเนินงานปี 2566/67 จะมีรายได้อยู่ที่ 6,000-6,500 ล้านบาท หนุนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และภาคการท่องเที่ยว (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
    • สสอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 31 พ.ค. กําหนดประชุมกนง.ครั้งที่ 3/2566
    • ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 13 ก.ค. กกต.รับรองผลเลือกตั้งวันสุดท้าย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 30 พ.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จาก Conference Board ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จาก เฟดดัลลัส
  • 31 พ.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนพ.ค.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS)
    • สหรัฐ รายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนเม.ย.
  • เช้าวันที่ 1 มิ.ย. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • 1 มิ.ย. วันสุดท้ายของการบรรลุข้อตกลงการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ
    • จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.จากไฉซิน
    • สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 4 มิ.ย. โอเปก และชาติพันธมิตรประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมัน
- Advertisement -