บล.ฟินันเซีย ไซรัส

CP ALL (CPALL TB)

คาดกำไรปกติ 1Q24 โต y-y ตามยอดขายและ GPM ของ CVS

  • คาดกำไรปกติ 1Q24 ที่ 4.86 พันลบ. ลดลง 13% y-y จากปัจจัยฤดูกาล เพิ่มขึ้น 29% y-y หนุนจากยอดขายทั้ง 3 ธุรกิจ, GPM-CVS ขยายตัวและดอกเบี้ยจ่ายลด
  • แนวโน้ม 2Q24 ยังมองบวก ยังคาดกำไรปกติปี 2024 ที่ 21 พันลบ (+16% y-y)
  • คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 77.0 บาท (DCF)

คาดกำไรปกติ 1Q24 โตเด่น y-y จากยอดขายของทั้ง 3 ธุรกิจ และดอกเบี้ยจ่ายลง

เราคาดกำไรปกติ 1Q24 ที่ 4.86 พันลบ. ลดลง 13% q-q จากปัจจัยด้านฤดูกาลเพิ่มขึ้นเด่น 29% y-y หนุนจากยอดขายของทั้ง 3 ธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยเราคาด SSSG ของธุรกิจ CVS +3.5% เพิ่มขึ้นตามจำนวนท่องเที่ยว หนุนตัวเลข Traffic เข้าร้าน 7-eleven เพิ่มขึ้น ขณะที่คาดธุรกิจ Wholesale +4% และ Retail +6% และคาดร้าน 7-eleven เปิดเพิ่ม 200 สาขา MAKRO 2 สาขา รูปแบบ Eco Plus และ Lotus’s ปิดสาขา go fresh 4 สาขา และ Transfer ร้าน Supermarket เป็น Hybrid store 1 สาขา และเปิดสาขา Supermarket ที่มาเลเซียเพิ่ม 1 สาขา

Margin ของ CVS เติบโตแข็งแกร่ง หนุนจาก Product mixed

เราคาด GPM ของธุรกิจ CVS ทรงตัว q-q แต่สูงขึ้น 70 bps y-y หนุนจาก Product mixed ของกลุ่มสินค้าที่ Margin สูงเพิ่มขึ้นอย่าง RTE, เครื่องดื่ม และสินค้า Margin ต่ำอย่างบุหรี่ที่เทรนปรับลดลงจากการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค สำหรับธุรกิจ Wholesale คาดลดลงเล็กน้อยเป็น 10.8% (vs 1Q23 ที่ 10.9%) จากศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ ธุรกิจ Retail คาด GPM ทรงตัว y-y ที่ 18.0% ขณะที่ SG&A เพิ่มขึ้นตามยอดขายที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายก่อนเริ่มดำเนินงานใน DC ใหม่ของ MAKRO รวมถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงจากการปรับโครงสร้างเงินกู้ของ CPAXT

แนวโน้มระยะสั้นยังคาดเติบโตได้ทั้ง 3 ธุรกิจ

หากกำไรปกติ 1Q24 เป็นไปตามคาด จะคิดเป็น 23% ของกำไรปกติที่ปี 2024 โดยเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2024 ที่ 21 พันลบ. (+16% y-y) แนวโน้ม 2Q24 คาดว่าเติบโตได้ทั้ง q-q และ y-y จากช่วงวันหยุดยาวและการเข้าสู่หน้าร้อน หนุนกลุ่มสินค้า Margin ดีอย่างเครื่องดื่ม รวมถึงการฟื้นตัวของยอดขายในธุรกิจ Retail

คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 77 บาท

คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 77 บาท เลือกเป็น Top pick ของกลุ่มจากทั้งแนวโน้มระยะสั้น และในปี 2024 ยังเติบโต ตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ รวมถึงการเติบโตของ O2O นอกจากนี้ Valuation ยังอยู่ในระดับน่าสนใจ ปัจจุบันเทรดบน 2024E P/E ที่ 24.0 เท่า เท่ากับค่าเฉลี่ย 5 ปี -2SD

Investment thesis

CPALL เป็นผู้ประกอบธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายสาขาไปในประเทศกัมพูชา และประเทศลาว ณ 2023 มีสาขาในประเทศไทยทั้งหมด 14,545 สาขา, ประเทศกัมพูชา 82 สาขา และประเทศลาว 3 สาขา

ภายหลังการรวมธุรกิจของ CPAXT (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 2024 ที่ 36 บาท) โดย CPALL ถือหุ้น 59.9% ทำให้ CPALL ดำเนินธุรกิจ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ,ธุรกิจค้าส่ง, ธุรกิจค้าปลีกเราเชื่อว่า CPALL จะได้รับผลบวกจากการพื้นตัวของการบริโภคในประเทศ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ โดยเราคาดกำไรปกติปี 2024-26E เติบโตเฉลี่ย 15% CAGR

Company profile

ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และลงทุนในธุรกิจสนับสนุนธุรกิจ CVS เช่น ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปและเบเกอรี รวมถึงการลงทุนในธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ “แม็คโคร”

www.cpall.co.th

Catalysts

ปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น ได้แก่ 1) การบริโภคในประเทศและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวกว่าที่คาด 2) ผลการดำเนินงานของธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกดีกว่าที่คาด

Risks to our call

ความเสี่ยง 1) อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) น้อยกว่าที่คาด 2) อัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่าที่คาด 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายสูงกว่าที่คาด

- Advertisement -