เช้า BOJ ค่ำ PCE / 1,350— 1,370

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET วันนี้พักตัว: คาดนักลงทุนขายหุ้นในมือเพื่อลดความเสี่ยงจากภายนอก หลังวานนี้ตัวเลข GDP สหรัฐ รอบ Preliminary ใน 1Q67 ออกมาที่ 1.6%q-q ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.5%q-q ออกมาพร้อมกับตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐประจำสัปดาห์ที่ออกมาที่ 2.07 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.14 แสนราย ภาพตัวเลข GDP ที่ออกมาในทิศทางชะลอตัวช่วยเพิ่มแรงกดดันให้เฟดเร่งลดอัตราดอกเบี้ย แต่ภาพตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 กลับสร้างแรงหนุนการคงอัตราดอกเบี้ย ความขัดแย้งดังกล่าวกดดันภาพรวมการลงทุน นักลงทุนอาจลดสินทรัพย์เสี่ยงในมือลง ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงทั้ง 3 ตลาด ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 และ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะ 5% และ 4.71% ตามลำดับ สะท้อนแรงขายในตลาดพันธบัตรเช่นกัน คาดนักลงทุนหันไปให้น้ำหนักกับตัวเลข PCE และ Core PCE เดือนมี.ค. ที่จะประกาศในคืน นี้ คาดจะออกมาที่ +2.6%y-y ทั้งคู่ PCE ที่เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่ 2.5%y-y และ Core PCE ที่ลดลงจากครั้งก่อนที่ 2.8%y-y จะสะท้อนราคาพลังงานและอาหารที่กลับมาดันเงินเฟ้อด้านอุปทาน ซึ่งไม่สามารถแก้ไขด้วยนโยบายการเงินได้ อาจสร้างความกังวลว่าสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะ Stagflation อีกครั้ง และกดดันหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ด้านปัจจัยบวกมาจากประเด็น 1) สมาคมธนาคารเผยจะลดอัตราดอกเบี้ย MRR ให้กับลูกค้าในกลุ่มเปราะบางและกลุ่ม SME เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงินของผู้มีรายได้น้อย ที่มีสัดส่วนการบริโภคมากกว่าออมอยู่แล้วจึงคาดจะหนุนการใช้จ่ายในระยะสั้นหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก 2) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่องสู่ระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์ หนุนหุ้นที่มีสัดส่วนส่งออกสูงในกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม แต่มองปัจจัยบวกวันนี้มีน้ำหนักน้อยกว่าปัจจัยลบ ภาพรวม SET คาดคงทิศทางลงต่อ เช้านี้จับตาการประชุม BoJ เพื่อคาดเดาทิศทางนโยบายการเงิน และการแทรกแซงค่าเงิน
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) Defensive: BDMS, BCH, CHG 2) ท่องเที่ยว+Spending : BA, CENTEL, ERW, MINT, SHR, CPALL, CPAXT, ILM 3) เก็งงบ 1Q67: ADVANC, TRUE, KCE, AMATA 4) บาทอ่อน : GFPT, ITC, AAI, TU, ASIAN, ICHI, SAPPE, HANA

ปัจจัยบวก

  • ราคาไข่ไก่ในหลายประเทศพุ่งทะยานอีกครั้ง หลังพบไข้หวัดนกกลับมาระบาดในสหรัฐ ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ฉุดผลผลิตลดลง เป็นบวกต่อหุ้นเนื้อไก่และไข่ไก่
  • สมาคมธนาคารไทยประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 25 bps สำหรับกลุ่มเปราะบาง และ SME เป็นระยะเวลา 6 เดือน
  • รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พ.ค.นี้จะประกาศเป็นนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วัน ทั่วประเทศ คาดว่าจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.67 เป็นต้นไป ช่วยหนุนกำลังซื้อภายในประเทศ
  • กนอ. เผยผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.66-มี.ค.67) มียอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 3,946 ไร่ จาก ช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 2,975 ไร่ คิดเป็นเพิ่มขึ้น 32.64% รวมมูลค่าการลงทุน 158,372 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายของปีงบประมาณ 2567 ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ไร่แล้ว

ปัจจัยลบ

  • ส.อ.ท. เปิดเผยถึงกรณีที่ราคาดีเซล จะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรมมีต้นทุนที่ต่างกัน หากอุตสาหกรรรมใดไม่สามารถแบกรับภาระได้ ก็ต้องผลักภาระไปยังผู้บริโภคในการปรับขึ้นราคาสินค้า
  • สำนักงานธนานุเคราะห์ ชี้มีผู้นำทรัพย์ไปจำนำทั้งสิ้น 1.19 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.9% สะท้อนปัญหาการขาดสภาพคล่องโดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนรายได้น้อย และธุรกิจ SME
  • โตโยต้า มอเตอร์ จะเลื่อนการเดินสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในสหรัฐออกไปเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2569 จากแผนเดิมที่วางไว้ว่าจะเริ่มผลิตในปี 2568 เป็นลบต่อหุ้นในห่วงโซ่อุปทานเดียวกัน
  • Meta คาดรายได้ใน 2067 จะออกมาที่ 3.775 หมื่นล้านเหรียญ หรือ +18%q-q ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดจะออกมาที่ 3.83 หมื่นล้านเหรียญ และคาดว่าค่าใช้จ่ายเพื่อพัฒนา AI จะมีมูลค่ามากถึง 3-4 หมื่นล้านบาท อาจทำให้กำไรสุทธิชะลอตัวอย่างมาก

PICKS OF THE DAY

AMATA BUY

  • เป้าหมาย 23.50 / 24.00 แนวรับ 22.00
  • แนวโน้มยอดขายที่ดินในนิคมเติบโต: โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.66-มี.ค.67) มียอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมฯ 3,946 ไร่ เพิ่มขึ้น 32.64%y-y รวมมูลค่าการลงทุน 158,372 ล้านบาท สอดคล้องกับ Preview บริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน จึงคาดแนวโน้มยอดขายที่ดินมีโอกาสเติบโตได้ดี
  • คาดกำไรปีนี้ 2.9 พันลบ.: ทางฝ่ายคาดกำไรปีนี้จะเติบโต 19.7%y-y จากราคาขายที่ดินในนิคมฯ เพิ่มราว 11-13%, อุปสงค์สาธารณูปโภค น้ำ-ไฟ ในนิคมฯที่เพิ่มขึ้นตามกำลังการผลิตบริษัทในนิคมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแผนนำบริษัทอมตะ ยู เข้าจดทะเบียนในตลาดราวปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีโอกาสได้กำไรจากการขายเข้าตลาดฯ ในอนาคต

GFPT BUY

  • เป้าหมาย 13.00 / 13.50 แนวรับ 12.00
  • ธุรกิจไก่ปรับตัวดีขึ้นในปีนี้: ภาพตลาดไก่ฟื้นตัวดีขึ้น GFPT ได้ประโยชน์มากสุดจากการประกอบธุรกิจไก่ 100% มีดีมานด์กลับเข้ามาสั่งซื้อจากยุโรปเพิ่มขึ้น และราคาไก่ในไทยทยอยปรับตัวขึ้นในช่วง 1Q67 ยังได้ประโยชน์จากด้านราคาในส่วนที่ขายภายในประเทศ คาดผลประกอบการเติบโต y-y แต่อาจลดลง q-q เพียงเล็กน้อยตามปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจ farm และ feed
  • ความขัดแย้งเอื้ประโยชน์: เหตุการณ์ Red sea ทำให้ลูกค้ายุโรปกังวลเรื่องการขนส่งจึงเร่งการสั่งซื้อให้เร็วขึ้นใน และการส่งออกยังได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าในช่วง 1Q67 ไปด้วย
- Advertisement -