วันนี้คาดตลาด “Sideway Up”

แนวรับ 1,365 / 1,360 แนวต้าน 1,373 / 1,382

รายงานตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มลดความร้อนแรงลง มองเป็นปัจจัยเพิ่มคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ในระยะต่อไป ขณะที่การปรับลดวงเงินในการทำ QT มองเป็นจุดเริ่มต้นในการนำสภาพคล่องกลับเข้าสู่ตลาดหนุน ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ สำหรับปัจจัยภายในประเทศแนวโน้มการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ คาดกระทบหุ้นในกลุ่มรับเหมา-ก่อสร้าง และอุตสาหกรรมบ้างเล็กน้อย แต่เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกและเครื่องดื่ม

Our View? “เดินหน้า..ฟื้นตัว”

คาดตลาดวันี้ ‘Sideway Up’ มองแนวรับที่บริเวณ 1,365 / 1,360 และแนวต้านที่บริเวณ 1,373 / 1,382 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศหลังเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payroll) เดือน เม.ย. ออกมาเพิ่มขึ้น 1.75 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์และต่ำกว่าเดือน มี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเดือน เม.ย. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.9% มากกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มลดความร้อนแรงลง เรามองเป็นปัจจัยช่วยเพิ่มคาดการณ์ถึงโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) โดย CME FED Watch Tools เริ่มบ่งชี้ตลาดกลับมาให้น้ำหนักต่อแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในช่วงเดือน ก.ย.’67 นี้อีกครั้งที่ระดับราว 50%+/- อีกทั้งเรายังมองการที่ FED จะเริ่มปรับลดวงเงินในการปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหมดอายุลง โดยไม่มีการซื้อคืน (QT) เหลือเพียง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากก่อนหน้าที่ระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่วงเงิน QT สำหรับตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) จะอยู่ที่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เรามองว่าประเด็นดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกในการเริ่มกลับมาเพิ่มสภาพคล่องส่วนเกินเข้าสู่ตลาด คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง สะท้อนการเปิดรับความเสี่ยงที่มากขึ้นของตลาด (Risk-On) หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้

ขณะที่การรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาพรวมของจีนโดย Caixin ออกมาที่ระดับ 52.8 จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 52.7 ทั้งนี้เราแนะนำติดตามรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าของจีนเดือนเม.ย. ในช่วงสัปดาห์นี้ต่อ คาดจะพลิกกลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ระดับ 1.2% และ 4.5% ตามลำดับ สะท้อนทิศทางการค้าและเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวขึ้นมองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นจีน-และภูมิภาคได้

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อคืนนี้อ่อนตัวลงต่อเนื่องแต่เริ่มชะลอกำลังลงบ้างแล้ว ปิดที่ระดับ 78.48 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.37 ดอลลาร์ (+0.47%) คาดราคาน้ำมันจะได้รับแรงกดดันจากการรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่ออกมาสะท้อนตลาดแรงงานลดความร้อนแรง ส่งผลให้คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในสหรัฐชะลอตัวลง ขณะที่ความเสี่ยงทางด้านปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์เบาบางลงไป คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมันดับ-หุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงได้ต่อ

สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั้งประเทศในช่วงเดือน ต.ค. เรามองเป็นทั้งปัจจัยบวกและลบต่อตลาด โดยคาดจะเป็นปัจจัยเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านแรงงานต่อบจ. ที่มีสัดส่วนแรงงานมากอาทิ รับเหมา-ก่อสร้าง และอุตสาหกรรมต่างๆ บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเรามองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC และ CRC) รวมถึงหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม (OSP, CBG, SAPPE, ICHI และ TACC) จากกำลังซื้อที่จะเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามคาดตลาดจะให้ความสำคัญไปกับการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดฯ รายตัวต่อไป

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “MBK”

  • เราคาดว่า MBK จะได้ประโยชน์จากการเข้า IPO ของสยามพิวรรธน์ ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าทางบัญชีของ MBK เพิ่มขึ้น จากการที่ MBK ถือหุ้นสยามพิวรรธน์ราว 49%+/- คาดจะหนุนแรงเก็งกำไร MBK ปรับตัวขึ้นได้
  • ทางเทคนิค ราคาแกว่งตัวออกด้านข้างยืนเหนือ EMA10, 25 และ 200 วัน พยายามทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
  • แนะนำ “ซื้อเล่นรอบ”
  • แนวรับ 17.10 / 16.60 Target 19.00 / 20.00 Stop <16.00

- Advertisement -