บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

S Hotels and Resorts PLC ตลาดยังมองข้ามตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่ม

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +35.7%

Close Sep 17, 2021 Price (THB) 3.66

12M Target (THB) 5.00

Previous Target (THB) 4.46

What’s new?

  • คาด 3Q64 ฟื้นตัวเด่น QoQ มาจากการรับรู้ผลประกอบการใน UK 100% เต็มไตรมาส และตลาด UK และ Maldives ฟื้นตัวเร็วและแรง
  • คาด 4Q64 มีโอกาสลุ้น Breakeven หรืออย่างช้าใน 1Q65 และเข้าสู่ปีทองในปี 2565 หนุนจากการฟื้นตัวเต็มปีในตลาด Maldives ตลาด UK และการฟื้นตัวครึ่งปีแรกของตลาดประเทศไทย

Our View

  • คงประมาณการปี 2564 ท่ีขาดทุน 1.3 พันล้านบาท แต่กลับมาทำกำไรในปี 2565-2566 ท่ี 313 ล้านบาท และ 549 ล้านบาทตามลำดับ
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 5.00 บาทต่อหุ้น เราเลือก SHR เป็นตัวเลือก เด่นของกลุ่ม ราคาหุ้นปัจจุบันยังซื้อขายท่ี P/BV เพียง 0.9x เทียบกับกลุ่มท่ี 3.1x และซื้อขายบน EV/EBITDA ปี 2565 ท่ีเพียง 10x เทียบกับกลุ่มท่ี 20x

ตัวเลข Occupancy Rate ไม่เคยหลอกใคร

SHR ดําเนินธุรกิจกว่า 60% ในตลาดที่ฟื้นตัวแล้ว เช่น ตลาด UK (30% ของ Port) และตลาด Maldives (30% ของ Port) ซึ่งทั้งสองตลาดรายงาน Utilization ท่ีระดับเกินกว่า 60% ไปแล้วใน 3Q64 โดยเฉพาะตลาด UK ที่ทำได้ถึงระดับ 70% ในช่วง High season และมี ADR ที่ระดับเดียวกับ Pre-COVID19 แล้ว ทําให้ SHR ต้องลุ้นฟื้นตัวอีกเพียง 40% ของ Portfolio ซึ่ง 25% เป็นสัดส่วนจากโรงแรมหลัก 4 โรง ในประเทศไทย ได้แก่ SAii Phi Phi Island Village, SAii Laguna Phuket, SAii Koh Samui Bophut, Santiburi Koh Samui ในโรงแรมทั้งสี่แห่ง โรงแรมสำคัญ คือ โรงแรมหลักบนเกาะภูเก็ต และเกาะพีพี ที่คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งของ EBITDA จากประเทศไทย หากประเทศไทยฉีดวัคซีนถึงระดับ 70% ตลาดภูเก็ต และพีพี SHR ก็พร้อมกลับมาทำกำไรปกติไม่ยาก

ตัวลข Occ. Rate ที่เริ่มฟื้นตัวในต่างประเทศ สะท้อนมาเป็นผลประกอบการที่ดีขึ้น เราคาด 3Q64 ขาดทุนปกติที่ 297 ล้านบาท ดีขึ้น QoQ เทียบกับขาดทุน 571 ล้านบาทใน 2Q64 และขาดทุนปกติ 600 ล้านบาทใน 3Q63 เรา คาด 4Q64 มีลุ้น Breakeven และจะเข้าสู่ปีทองในปี 2565 หนุนจากการฟื้นตัวเต็มปีในตลาด Maldives ตลาด UK และการฟื้นตัวในตลาดประเทศไทย คาดเห็นได้ทันในครึ่งปีแรก

แนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในทุกตลาด…วัคซีนเห็นผลบวกชัด

สมมุติฐานการฟื้นตัวสำคัญของเรา คือ ประสิทธิภาพของวัคซีนในตลาดที่ฉีดไปมากแล้วใช้ได้ผล ดังนี้

ตลาด Maldives รัฐบาลกลับมาเปิดประเทศเต็มรูปแบบ แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังลดลงอย่างต่อเนื่องจากระดับ 1,000 คนเหลือ 100คน/วัน ภูมิประเทศที่เป็นเกาะและประชากรฉีดวัคซีนไปแล้วราว 72% เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาด Maldives จะเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวใน High Season 4Q64 และต่อเนื่องตลอดปี 2565

ตลาด UK รัฐบาลเปิดประเทศท่ามกลางการแพร่สายพันธุ์ DELTA แต่จำนวนผู้เสียชีวิตไม่ได้สูงขึ้น แม้จำนวนผู้ติดเชื้อยังสูง สะท้อนว่าวัคซีนที่ฉีดให้ประชากรไปแล้วกว่า 73% กำลังเห็นผล นอกจากนี้แผนการฉีดวัคซีนให้เด็กและเตรียมพร้อมเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นเพิ่มเติมเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญที่หนุนการฟื้นตัว ตัวเลข Occ.Rate ที่ระดับ 70% ของ SHR ในเดือน ส.ค.64 หรือในช่วง High season ทั้งๆที่ยังมีการระบาดของสายพันธุ์ DELTA คือ ข้อพิสูจน์สำคัญถึงการฟื้นตัวแรงตลอดปี 2565 ที่การฉีดวัคซีนจะยิ่งเพิ่มกว่านี้

ตลาดในไทย ลุ้นรัฐบาลเดินหน้าตามแผนเปิดประเทศเพิ่มเติมอีก 26 จังหวัดภายในเดือนต.ค. โดยนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว 2 เข็ม สามารถเดินทางโดยไม่ต้องกักตัว และแผนเปิดกรุงเทพฯ ในวันท่ี 15 ต.ค. นี้ แม่แผลมีความท้าทายและอาจมีโอกาสถูกเลื่อน Time line ออกไปบ้าง จากอัตราการฉีดวัคซีนสองเข็มที่ยังต่ำเพียง 37% ของจํานวนคนทั้งกรุงเทพฯ แต่ก็สะท้อนว่าภาครัฐให้น้ำหนักกับภาคการท่องเที่ยว การเปิดกรุงเทพฯ จะทำให้การเดินทางไปภูเก็ต เกาะพีพี และสมุยง่ายขึ้น หนุนการฟื้นตัวของ SHR

Valuation ถูกมากเทียบกับกลุ่ม …แต่ผลประกอบการแข็งแกร่งกว่ากลุ่ม

SHR ซื้อขายบน P/BV ท่ี 0.9x ถูกมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยโรงแรมขนาดใหญ่ในกลุ่มท่ี 3.1x และซื้อขายบน  EV/EBITDA ปี 2565 ท่ี 10.0x ใกล้เคียงกับ MINT ท่ี 10.1x แต่ยังถูกกว่า CENTEL และ ERW ท่ีราว 11x และค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 20.3x ดังนั้น SHR ยังถูกกว่ากลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ แต่ภาพการฟื้นตัวมีโอกาสสูงที่จะดีกว่ากลุ่ม จากโรงแรมที่อยู่ตามเกาะท่องเที่ยวสำคัญ และเป็นโรงแรมระดับบนซึ่งจะฟื้นตัวก่อนในยุค Post COVID-19

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม สิ้นปี 2565 ท่ี 5.00 บาทต่อหุ้น

เราคงประมาณและคําแนะนํา “ซื้อ” แต่ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 5.00 บาทต่อหุ้น บน EV/EBITDA band ของกลุ่มท่ี 12.1x หรือเทียบเท่า +1.0SD เราเลือก SHR เป็นตัวเลือกเด่นของกลุ่มโรงแรม สำหรับการฟื้นตัวรอบใหญ่ตลอดปี 2565

ความเสี่ยงสำคัญ 1) การระบาดของ COVD-19 เกิดการกลายพันธุ์ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอีกครั้ง และ 2) การเปิดประเทศทำได้ล่าช้า

ตลาดหลักของ SHR มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง รอเพียงตลาดไทยให้ฟื้นตัว

ตลาดหลักของ SHR ได้แก่ ตลาด Maldives (30%) ตลาด UK (30%) และตลาดไทย (25%) มีอัตราการฉีดวัคซีนระดับสูงแล้ว

  • ปัจจุบัน Maldives ฉีดวัคซีนไปแล้วราว 72% ของประชากรทั้งหมดแบ่งเป็น 2 เข็ม (Fully vaccinated) ที่ 60% และได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียวอีก 12%
  • สำหรับประเทศ UK ที่ฉีดวัคซีนไปแล้วราว 73% แบ่งเป็น 2 เข็ม (Fully vaccinated) ที่ 66% และได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียวอีก 7%
  • ประเทศไทยท่ีฉีดวัคซีนไปท่ี 43% ของประชากรทั้งหมดแบ่งเป็น 2 เข็ม (Fully vaccinated) ท่ี 22% และได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียวอีก 21%

DJ Hotel Inces ทำระดับสูงกว่า pre-COVID19 ไปแล้ว

ในตลาดท่ีมีการฉีดวัคซีนสูงแล้ว ราคาหุ้นกลุ่มโรงแรมสามารถปรับตัวสูงกว่าระดับก่อนเกิด COVID-19 ไม่ยาก เช่น DJ Hotel Index (DJUSLG) เป็นต้น ทั้งๆ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนไปแล้วเพียง 55% สะท้อนว่าตลาดพร้อมให้ความเชื่อมั่นกับวัคซีนที่มีคุณภาพสองเข็ม และพร้อม Price In ผลประกอบการท่ีจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติล่วงหน้า เราคิดว่าสถานการณ์ของ SHR จะคล้ายคลึงกัน โดยรอเพียงการฉีดวัคซีนให้ครบ 70% ในตลาดไทยเท่านั้น

ตัวเลขวัคซีนที่สูงแม้เพียง 60% ของ Port แต่เริ่มส่งผลบวกมาที่ผลประกอบการ…คาด 3Q64 ขาดทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

คาดผลประกอบการของ SHR ใน 3Q64 ขาดทุนสุทธิที่ 297 ล้านบาท ดีขึ้น QoQ เทียบกับขาดทุน 571 ล้านบาทใน 2Q64 และขาดทุนปกติ 600 ล้านบาท ใน 3Q63 ผลประกอบการท่ีกลับมาฟื้นตัวทั้ง QoQ และ YoY อิงสมมติฐานสําคัญดังนี้

  • โรงแรม Crossroads ที่ Maldives คาด Occupancy Rate ใน 3Q64 ที่ราว 60% เพิ่มขึ้นจากระดับ 44% ใน 2Q64 เป็นผลจากการกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวอินเดีย หลังจากรัฐบาล Maldives ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศอินเดียใน 2Q64 ซึ่งปกติจะคิดเป็นราว 20% ของลูกค้าทั้งหมด
  • โรงแรมใน UK คาดทํา Occupancy Rate ที่ 67% ฟื้นตัวแรงจาก 34% ใน 2Q64 โดยสัญญาณบวกเร่ิมมีตั้งแต่ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการในเดือน พ.ค.64 และเริ่มกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศตั้ง แต่ปลาย ก.ค.64 นอกจากนี้ SHR จะรับรู้โรงแรมใน UK 100% เต็มไตรมาส เป็นไตรมาสแรกใน 3Q64 หนุนรายได้รวมของบริษัทฯ
  • โรงแรมในไทยยังเป็นกลุ่มที่ถูกผลกระทบหนักจากสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศ คาด Occupancy rate ที่ราว 16% โดยโรงแรมในภูเก็ตเร่ิมเห็น Occupancy เข้ามาบ้างแล้วหลังเปิด Phuket Sandbox แต่ยังอยู่ในโซนต่ำ สำหรับโรงแรมในเกาะสมุย และพีพี กลุ่มที่ถูกกระทบหนัก เนื่องจากต้องพึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก
  • สำหรับโรงแรมในกลุ่ม Outrigger คาด Occupancy เฉลี่ยที่ราว 10% โดยโรงแรมใน Fiji ได้เปิดให้บริการแล้วเป็นแบบ ASQ แต่โรงแรมใน Mauritius ยังปิดให้บริการทั้งหมด และคาดจะกลับมาเปิดได้ในตั้งแต่ต้น เดือนต.ค.64 เป็นต้นไป

คาดแนวโน้มฟี้นตัวต้ังแต่ 4Q64 อย่างมีนัยสำคัญ ตลาดในประเทศ Maldives…สวรรค์อันปลอดภัย…ปี 2565 คือปีทองของตลาด Maldives

รัฐบาล Maldives ประกาศให้นักท่องเที่ยวเอเชียใต้ รวมนักท่องเที่ยวหลักอย่างอินเดีย เดินทางเข้าประเทศได้อีกครั้งตั้งแต่ 15ก.ค.64 เป็นการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับต่ำ (เฉลี่ย 100คน/วัน) และอัตราผู้เสียชีวิตแทบจะเป็นศูนย์ จากภูมิประเทศที่เป็นเกาะทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดไร่ได้ง่าย และได้ผลบวกจากการฉีดวัคซีนไปแล้วราว 72% ของประชากรทั้งหมด

ตามรายงานในเดือนส.ค.64 อัพร้านนักท่องเที่ยวปรับตัวขึ้นใกล้เคียงกับช่วง Pre-covid19 แล้ว คาด Maldives จะกลับเข้าสู่ระดับปกติใน 4Q64 ซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจ

ตลาดใน UK … เดินเครื่องเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ … High Season ตัวเลขมาจริงตามนัด

รัฐบาลประกาศคลาย Lockdown และเปิดประเทศไปเมื่อ 19 ก.ค. 64 ท่ามกลางการระบาดของสายพันธุ์ DELTA ที่ยังรุนแรง แต่รัฐกลับเริ่มให้น้ำหนักกับผลกระทบต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจมากกว่า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในวัคซีนที่ฉีดไปแล้ว โดยประชากรกว่า 73% ได้รับวัคซีนแล้ว 1เข็ม และครบสองเข็มแล้ว 66% ขณะที่สัปดาห์หน้ารัฐบาลจะเริ่มฉีดเข็มแรกให้กับเด็ก 12 – 15 ปี เพื่อให้กลับไปโรงเรียนได้ตามปกติ และกำลังเริ่มฉีดเข็ม 3 ให้กับผู้สูงอายุ/ กลุ่มเสี่ยง เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันหมู่ในช่วงฤดูหนาวที่มีโอกาสระบาดซ้ำสูง แม้การผ่อนปรนมาตรการจะทำให้อัตราผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในจำนวนที่สูง แต่ผลจากการกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็วสะท้อนด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตที่ลดลงเหลือเพียง 100 คน/วัน

โดยลูกค้าหลักของ SHR ใน UK เป็นกลุ่ม Domestic ไม่ได้พึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก ตัวเลข Occ. Rate ที่ระดับ 70% ของ SHR ในเดือนส.ค.64 หรือในช่วง High season ทั้งๆที่ยังมีการระบาดของสายพันธุ์ DELTA สะท้อนว่าการคลาย Lockdown ทําให้คนในประเทศออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติแม้โรคยังระบาด แต่อัตราการตายน้อยลง เรามองโอกาสที่ประเทศจะกลับมา Lockdown ซึ่งจะทําให้หุ้น SHR ลงคงยาก แล้วเราเชื่อว่าตลาด UK จะ ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วง 4Q64 คาดจะมี Occ rate ลดลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วง Low Season แต่เราคาดว่า Occrate จะยังอยู่ในระดับที่สูงใกล้เคียงสภาวะ PreCOVID-19 เป็นข้อพิสูจน์สำคัญถึงการฟื้นตัวแรงไปยังปี 2565 ที่ยอดการฉีดวัคซีนจะยิ่งเพิ่มกว่านี้

ตลาดในประเทศไทย … ลุ้นยอดวัคซีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องให้เปิดประเทศได้

ตามแผนการเปิดประเทศไทยเริ่มจาก Phase 1 โครงการ “Phuket Sandbox และ Samui Plus model” ที่เปิด ไปเมื่อเดือนก.ค.64 ต่อด้วย “7+7 Phuket Extension” ซึ่งให้มีการเที่ยวข้ามเกาะไปยังจ.สุราษฎ์, กระบี่ และ พังงาได้หลังจากอยู่ในภูเก็ตครบ 7 วัน

ลุ้นรัฐบาลเดินหน้าต่อ Phase 2 เปิดเพิ่มอีก 5 จังหวัด ช่วง ต.ค. นี้ ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ แต่ยังต้องรอยืนยันยอดฉีดวัคซีนเกิน 70% ของประชากรในจังหวัด และผ่านมติศบค.ก่อนโดยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัว เหมือน Phuket Sandbox ส่วน Phase 3 จะเปิดเพิ่มอีก 21 จังหวัด และภายในต้นปีหน้าจัดผักดันให้เกิดการจับคู่เดินทางเที่ยวระหว่างประเทศ (Travel bubble) เรามองว่าหากแผนการเปิดประเทศเป็นไปตามแพลน จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดีในช่วงไตรมาส 4 ท่ีเป็น High Season จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีโอกาสกลับมาเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้ง โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เท่ียวไทยท่ีจะเริ่ม 15ต.ค.นี้ จะช่วยหนุนจำนวนนักท่องเที่ยว Domestic ด้วย

โรงแรมในไทยของ SHR อยู่ตามเกาะที่สำคัญ ได้แก่ เกาะสมุย ภูเก็ต และเกาะพีพี (SAii Phi Phi Island Village, SAii Laguna Phuket, SAii Koh Samui Bophut, Santiburi Koh Samui) แม้จะมีจํานวนโรงแรมแค่ 4 แห่ง แต่ถือเป็นรายได้กว่า 25% ของ Port ในช่วง Pre-Covid19 ซึ่งเน้นพึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมาจนต้องปิดโรงแรม 2 แห่ง บนเกาะสมุย ชั่วคราว อย่างไรก็ดี ตามแผนเปิดประเทศ Phase 1 ไทยได้เปิดรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีโรงแรมของ SHR อยู่ทั้งสิ้น บริษัทฯ จึงมีแผนกลับมาเปิดโรงแรมที่สมุย 1 แห่ง พร้อมออกแพ็คเกจ “1 trip 2 sensations” เพื่อรองรับลูกค้า“ Phuket Sandbox โมเดล 7+7” 14 คืนกับตัวเลือก 3 รีสอร์ทบน 3 เกาะของ SHR แม้ตัวเลข นักท่องเที่ยวจะยังไม่ได้เพิ่ม ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างน้อยก็สะท้อนว่าภาครัฐพร้อมที่จะให้น้ำหนักกับภาคท่องเที่ยวแล้ว ขอเพียงโรงแรมที่ภูเก็ตและเกาะพีพีฟื้น ภาพการฟื้นตัวของ SHR ในไทยก็ไม่ยากแล้ว มีโอกาสฟื้นตัวเด่นกว่าผู้ประกอบการรายอื่น

ประเด็นที่ต้องจับตามองสำหรับตลาดไทย

1) แผนการเปิดกรุงเทพฯ ที่จะทำให้การเดินทางไปภูเก็ต เกาะพีพี และสมุยง่ายขึ้น ถ้ากรุงเทพฯ กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ จะช่วยหนุนการกลับมาของนักท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ แต่แผนการเปิดยังไม่มีความชัดเจน และมีโอกาสถูกเลื่อน Timeline ออกไป จากอัตราการฉีดวัคซีนสองเข็มของคนกรุงเทพฯ ที่ยังต่ำเพียง 37% คาดจะเห็นยอด 70% ในช่วงกลางเดือน ต.ค. นี้ และเห็นความชัดเจนของแผนเปิดกรุงเทพฯ รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ ในที่ประชุม ศบค. สัปดาห์นี้

2) จํานวนผู้ได้รับวัคซีนสองเข็มในไทยมีเพียง 22% ของประชากรรวม อาจเป็นอุปสรรคต่อแผนการเปิดประเทศหากไทยเปิดประเทศ โดยที่ประชาชนยังได้รับการฉีดวัคซีนน้อย อาจทำให้มีโอกาสเกิดการระบาดครั้งใหม่ได้ เมื่อเทียบประเทศอื่นที่ทําการเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ควบคุมการแพร่ระบาดได้ ก็เมื่อประชากรได้รับวัคซีนสองเข็มเกิน 60% แล้ว ใครอ่าต้องรอลุ้นยอดฉีดวัคซีนในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. ที่มีโอกาสมีผู้ได้รับวัคซีนสองเข็มเกิน 70% ของประชากรรวม

- Advertisement -