บล.ฟิลลิป:

แสนสิริ – SIRI 9M66 รักษากำไรได้ดี

Key Point

3Q66 รายได้โอนยังเติบโต y-y และ q-q GPM กลับมาในระดับดีจากการโอนบ้านระดับราคาสูง ยังคงรักษาระดับกำไรได้ดีกว่าคาด มองปี 66 ยังทำกำไรเติบโต y-y โดดเด่นที่สุดในอุตฯ 4Q66 เปิดโครงการสูงสุดในปี หวังยอดขาย ยอดโอนดีขึ้น q-q แต่อาจเห็น GPM ลดลง q-q และค่าใช้จ่ายบริหารเพิ่มขึ้นจากช่วงจ่ายโบนัส, ปัจจุบันมีพอร์ตบ้านระดับราคาสูงเพิ่มขึ้น เจาะธุรกิจตรงตามดีมานด์ตลาด ราคาพื้นฐานที่ 2.06 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

9M66 All time high

3Q66 รายได้โอนอสังหาฯ 8,250 ลบ. เพิ่มขึ้น y-y และ q-q หลักมาจากโครงการนาราสิริและเศรษฐสิริมี GPM อสังหาฯที่ 34.2% -100bps y-y จากต้นทุนก่อสร้างที่สุงขึ้น +217bps q-q จากการโอนโครงการบ้านระดับราคาสูง มีกำไรจากการดำเนินงานที่เติบโตขึ้น y-y และ q-q ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น y-y และ q-q จากโอนโครงการบูราสิริ-กรุงเทพกรีฑา (JV) และ Bugaan (JV) ที่เป็นโครงการใหม่ขายได้หมดทั้งโครงการ แต่ไตรมาสนี้ไม่มีกำไรพิเศษเหมือนไตรมาสก่อนทำให้มีกำไรสุทธิ 1,557.3 ลบ. +22.8%y y -3.9%q-q รวม 9M66 Presale 33,349 ลบ. คิดเป็น 71% ของเป๋าผู้บริหารคาดทั้งปีจะทำได้ 40,000-42,000 ลบ. ต่ำกว่าเป้า 11% ที่ 47,000 ลบ. จากส่วนของต่างชาติที่ไม่มาตามเป้า, ยอดโอน 29,104 ลบ. คิดเป็น 71% ของเป้าผู้บริหารคาดทั้งปีจะทำได้ใกล้เคียงเป้าที่ 40,000 ลบ. กำไรสุทธิ 4,760 ลบ. +91%y-y All time high เทียบจาก 9 เดือนในปีก่อนๆ

4Q66 โอนยังดีแต่มีค่าใช้จ่ายสูง

4Q66 เปิด 22 โครงการ มูลค่า 36,600 ลบ. มีแนวราบ 14 โครงการ มูลค่า 24,000 ลบ. หลักๆ ยังเป็นโครงการบ้านระดับสูงอย่างเศรษฐสิริ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุดในปีนี้ มีคอนโด 8 โครงการ มูลค่า 12,200 ลบ. มีคอนโดระดับราคาสูงอย่าง SHUSH และ VIA ขายแล้ว 20% และ 40% ตามลำดับ ไตรมาสนี้มีการทำโปรโมชันคาดทำให้เร่งยอดโอนได้ดีขึ้น q-q แต่อาจยังอ่อนตัว y-y จากฐานปีก่อนที่สูง GPM อสังหาฯ 33% ลดลง y-y และ q-q จากการทำโปรโมชัน และมี SG&A to sale ที่สูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายโบนัส และจะมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเพิ่มเข้ามาจากการทำ JV คาดไม่เกิน 100 ลบ.

มีสต๊อกบ้านราคาสูงเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันมีพอร์ตในเซกเมนต์บ้านระดับราคาสูงเพิ่มขึ้นเป็น 37% จาก 19% ในช่วงไตรมาส 2 ทำให้ยอด rejected rate ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 7% ส่วน Net gearing 1.63 เท่า เพิ่มขึ้นจากการเปิดโครงการมากขึ้นคาดปี 67 จะลดลงต่ำกว่า 1,6 เท่าได้ จากการ exercise warrant กับ ESOP และมีกำไรสุทธิที่เข้ามาเพิ่ม ทำให้ส่วนของเจ้าของเพิ่ม รวมทั้งปี 66 เปิด 46 โครงการ มูลค่า 66,000 ลบ. +53%y-y และภาพการเปิดตัวในปี 67 คาดใกล้เคียงเดิม ถือว่ายังอยู่ในระดับสูง ภาพเปิดโครงการจะหนักไปยังปลายปีเหมือนปีนี้ และเห็นบ้านระดับราคากลางถึงสูงเพิ่มขึ้น ส่วนคอนโดยังเน้นระดับกลาง

ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 2.06 บาท/หุ้น อิง PIE 7.4 เท่า

ทางฝ่ายฯมีการปรับ P/E ให้เป็นปัจจุบัน โดยใช้เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี +0.25STD อยู่ที่ 7.4 เท่า และทำกำไร 3Q66 ได้ดีกว่าที่คาดไว้ทำให้ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 และปี 67 ขึ้นตามลำดับ (ปรับกำไรปี 67 เพิ่มจากประมาณการเดิม 7.8%) ปรับราคาพื้นฐานปี 67 เพิ่มที่ 2.06 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ/อัตราการจ้างงาน/อัตราดอกเบี้ย
  2. ทำเลที่ตั้ง,ลักษณะโครงการ ความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานในตลาดที่อยู่อาศัย
  3. นโยบายลงทุนภาครัฐฯ
- Advertisement -