บล.พาย:

STEC: Sino-Thai Engineering and Construction  

1Q24 ไม่ดีนัก แต่หลังจากนี้คาดค่อยๆ ดีขึ้น

เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม แต่เป็นรูปแบบเก็งกำไรตามการเปิดประมูลงานใหม่ของภาครัฐ ที่คาดว่าจะทยอยออกมาหลังเริ่มใช้งบประมาณปี 24 เนื่องจากผลประกอบการยังคงถูกกดดันจากผลขาดทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู ที่คาดว่าจะมีผลขาดทุนเข้ามาไตรมาสละกว่า 100 ล้านบาทต่อ ซึ่งเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ 1Q24 ที่หากไม่รวมรายการพิเศษ STEC จะขาดทุน 3 ล้านบาท และทำให้เราปรับกำไรทั้งปีลงจากเดิม 25% มาอยู่ที่ 410 ล้านบาท (-22%YoY) อย่างไรก็ตามในแง่รายได้เราคาดว่าทั้งปีจะยังเติบโตจากปีก่อนได้ เพราะมีโครงการโรงไฟฟ้าที่มีมูลค่างานสูงรอรับรู้รายได้อยู่อีกมาก รวมถึงงานรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ที่ปีนี้คาดมีความคืบหน้ามาก

1Q24 รายงานกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท (-93%YoY, -84%QoQ)

  • 1Q24 STEC มีกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท (-93%YoY, -84%QoQ) ดีกว่า ที่เราคาดว่าจะขาดทุน 34 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในงวดดังกล่าวมีกำไรจากการขายอุปกรณ์เข้ามาประมาณ 15 ล้านบาท (สุทธิจากภาษี)
    ถ้าไม่รวมรายการดังกล่าวจะขาดทุน 3 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจาก ส่วนแบ่งขาดทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู
  • รายได้ที่ 6,484 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน แต่ลดลง 20%QoQ ส่วนรายได้ที่ลดลงจากปีก่อนเป็นไปตามฐาน Backlog ที่ยังไม่มีงานขนาดใหญ่เข้ามาเพิ่ม
  • กำไรขั้นต้นที่ 5.9% ใกล้เคียงกับ 1Q23 และดีขึ้นจาก 5.1% ใน 4Q23 เพราะมีรายได้จากเงินประกันโครงการอุโมงหนองบอนเข้ามาประมาณ 30 ล้านบาท เข้ามาช่วยชดเชยต้นทุนงานซ่อมแซมอุโมงหนองบอน ด้านค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ 198 ล้านบาท (+4%YoY, -32%QoQ) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อยเพราะมีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างบริษัท ส่วนการลดลงจาก 4Q23 เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายโบนัสเข้ามา รวมแล้ว STEC มีกำไรจากการดำเนินงาน 182 ล้านบาททรงตัวจากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 54%QoQ
  • ส่วนแบ่งขาดทุนจากบุริษัทร่วม 146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23,781%YoY, +187%Q0Q เพราะเริ่มรับรู้ผลขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้ามาเป็นไตรมาสแรก รวมกับสายสีเหลืองที่มีผู้โดยสารเฉลี่ยลดลง 4%QoQ ดอกเบี้ยจ่าย 35 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 573%YoY, 61%QoQ เพราะมีเงินกู้ยืมระยะสั้นเพิ่ม

คาดหลังจากนี้รายได้ค่อยๆ ฟื้น

ภาพรวมช่วงที่เหลือของปีในแง่รายได้คาดว่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นจาก 1Q24 เพราะยังมีโครงการที่ต้องเร่งก่อสร้างอยู่มากเพราะมีกำหนดการเสร็จภายในปีนี้เช่นโรงไฟฟ้าโซล่าเซลล์ และโรงไฟฟ้าปลวกแดงของ GULF และโรงไฟฟ้าหินกอง รวมถึงโครงการหมอชิตคอมเพล็ก เป็นต้นขณะที่งานรถไฟฟ้าสายสีม่วงตอนใต้ปัจจุบันเริมขั้นตอนการขุดอุโมงแล้ว ทำให้ทางผู้บริหารยังมองว่ารายได้ทั้งปียังมีโอกาสไปถึงระดับ 31,000 ล้านบาทได้ สำหรับกำไรขั้นต้น คาดว่าหลังจากนี้อาจจะไม่สูงเท่า 1Q24 เพราะไม่มีเงินประกันเข้ามาเหมือนไตรมาส 1 ที่ผ่านมา

ปรับกำไรปี 24 ลง แนะนำ “ซื้อ” ตามข่าวการเปิดประมูล

แม้ 1Q24 จะมีกำไรแต่หากไม่รวมรายการพิเศษจะขาดทุน ทำให้เราปรับกำไรทั้งปีลง 25% มาอยู่ที่ 410 ล้านบาท (-22%YoY) โดยปรับเพิ่มส่วนแบ่งขาดทุนเป็น 406 ล้านบาท จากเดิมคาดไว้เพียง 299 ล้านบาท

คำแนะนำการลงทุน เรามองว่า STEC มีปัจจัยบวกจากการเปิดประมูลโครงการของภาครัฐ จึงแนะนำ “ซื้อ” เก็งกำไรตามประเด็นดังกล่าวเท่านั้น และประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 11.7 บาท (1XPBV’24E)

- Advertisement -