บล.ไอร่า:

 

ORI ORIGIN PROPERTY PCL.

กำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 738 ลบ. (-9% qoq และ -11%yoy) จากการเลื่อนรับรู้โครงการ JV แต่คาดโดดเด่นตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป

  • ORI ประกาศผลการดำเนินงาน 1Q/65 มีกำไรสุทธิ 738 ล้านบาท (-9%qoq และ -11%yoy) ใกล้เคียงที่ตลาดคาด หลักๆ จากโครงการขนาดใหญ่ เช่น Park Origin Thonglor มูลค่า 12.0 พันล้านบาท (ยอดจองกว่า 75%) ไม่สามารถโอนได้ทันในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย (JV) 5 โครงการ มูลค่า 297 ล้านบาท (ก่อนภาษี) จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ราว 608 ล้านบาท (-12%qoq, -9%yoy) โดย GPM from residential ลดลงเล็กน้อยจาก 35.9% เมื่อ 1Q64 มาอยู่ที่ 35.2% ใน 1Q65 แต่ปรับตัวดีขึ้นจาก 4Q64 ที่ 33.4% ส่วนหนึ่งจากการรับรู้การโอน Park Origin Phayathai ต่อเนื่องเต็มไตรมาส รวมถึงโครงการใหม่ที่มี Margin ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม มีการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนฯ ราว 48 ล้านบาท เทียบส่วนแบ่งกำไร 48 ล้านบาท เมื่อ 1Q64 จากความล่าช้าในการโอนโครงการ Park Origin Thonglor รวมถึงโครงการ JV เดิมมียอดเหลือขายน้อยลง
  • คาดกำไรสุทธิมีโอกาสฟื้นตัวโดดเด่นตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป จากการเริ่มโอน Park Origin Thonglor และ คอนโดเสร็จใหม่รอโอนในช่วงที่เหลือของปีราว 6 โครงการ อาทิ Park Origin Ratchathewi และ Park Origin Chula-Samyan มูลค่า 3.0 และ 4.6 พันล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่โครงการแนวราบมีแนวโน้มเปิดตัวเพิ่มขึ้นใน 2H65 และทยอยรับรู้รายได้ record high ภายหลังการ Spin-off บ.ลูก อย่าง “BRI-Britania พร้อมคาดมีโอกาสรับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย (JV) ในแต่ละไตรมาส ซึ่งเป็น Upside เพิ่มในอนาคต
  • คาด Presale มีโอกาสเติบโตสูงในทิศทางเดียวกัน ภายใต้แผนเปิดตัวโครงการใหม่ใน 2Q65 ราว 7-8 โครงการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 12.0 พันล้านบาท (เทียบ 1Q65 ที่ราว 10.0 พันล้านบาท) ขณะที่ทั้งปี’65 มีแผนเปิด 31 โครงการ มูลค่ารวม 42.0 พันล้านบาท (+210%) ซึ่งเกือบ 70% เป็นโครงการแนวสูง และโครงการแนวราบราว 13.4 พันลบ.(ปี’64 = 7.8 พันลบ.) ผ่าน “BRI” ที่ IPO ในปีที่ผ่านมา โดย ORI ตั้งเป้ายอด Presale และยอดโอนที่ 35.0 พันล้านบาท (+16%) และ 26.0 พันล้านบาท (+61% รวม JV ราว 11.0 พันล้านบาท) ตามลำดับ พร้อม Backlog รอโอนไม่ต่ำกว่า 14.0 พันล้านบาท จาก Backlog รวม 34.0 พันล้านบาท (ทยอยรับรู้ใน 3 ปี) และยังมีอัพไซต์จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ อาทิ Healthcare, AMC, พลังงานทางเลือก และคลังสินค้า เป็นต้น เพื่อสร้าง new S-Curve ซึ่งมีแผนนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนใน ตลท. ในอนาคต
  • คาดรายได้และกำไรสุทธิปี’65 ที่ 15.2 พันล้านบาท (+11%) และ 3.7 พันล้านบาท (+15%) ตามลำดับ ราคาเป้าหมาย 14.00 บาท แนะนำ “Buy” (Bloomberg consensus)
- Advertisement -

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน